รอยด่างชัยชนะของ เทนชิน ที่ทำให้ “รถถัง” แจ้งเกิดในต่างแดน
ไม่ว่าจะกีฬาอะไร การเป็นผู้ชนะ ย่อมถูกจดจำมากกว่า ผู้แพ้อยู่เสมอ มีไม่กี่ครั้งหรอกในโลกกีฬาที่ ผู้แพ้ จะถูกจดจำมากกว่าผู้ชนะ
ก่อนหน้าที่ รถถัง จิตรเมืองนนท์ จะมาก้าวขึ้นมาเป็น ซูเปอร์สตาร์แชมป์โลกของ ONE Championship ที่มีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก และเป็นนักมวยไทยที่ฝรั่งให้การยอมรับอย่างมากในยุคนี้
ไฟต์ที่เป็นจุดเปลี่ยนของเจ้าตัว เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปี ในการโคจรมาเจอกับ เทนชิน นาสึกาวา นักชกชาวญี่ปุ่น ในศึก RISE (ไร-สึ)
ผลการแข่งขันในไฟต์นั้นอย่างที่หลายคนทราบ รถถัง เป็นฝ่ายแพ้คะแนน เทนชิน นาสึกาวา แต่หลังจบเกมกลับเป็น รถถัง ที่ได้รับเสียงชื่นชมและแจ้งเกิดเต็มตัวนอกแผ่นดินไทย ส่วน เทนชิน ที่เป็นฝ่ายชนะกลับถูกวิจารณ์อย่างหนัก และเป็นตำหนิของเจ้าตัวมาจนถึงทุกวันนี้
เกิดอะไรขึ้น ? และทำไมเรื่องราวถึงเป็นเช่นนั้น มวยเด็ด 789 จะพาไปย้อนถึงไฟต์ที่ ผู้แพ้ ถูกจดจำมากกว่าผู้ชนะ
หากย้อนกลับไปก่อนที่ เทนชิน นาสึกาว่า เด็กหนุ่มจากเมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น จะมาเจอกับ รถถัง ในตอนนั้น เทนชิน ถือเป็นซูเปอร์สตาร์นักคิกบอกซิ่งของแดนอาทิตย์อุทัย ที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ มีคุณสมบัติทุกอย่างทั้ง ความสามารถ เทคนิค และเสน่ห์
ทำให้เขาถูกคาดหมายว่าจะเป็น สุดยอดนักต่อสู้ชาวญี่ปุ่นแห่งยุค ที่สำคัญเขาไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยเลย ในอาชีพพ่อค้ากำปั้น แถมยังปราบนักมวยเก่งๆ จากต่างแดนมานักต่อนัก
ในแต่ละไฟต์ เขามักจะโชว์ชั้นเชิงที่เหนือชั้นกว่าคู่ต่อสู้ สลับกับการออกอาวุธที่ตื่นตาตื่นใจ เพื่อแสดงถึงศักยภาพที่ดีกว่าคู่ชก ทำให้ เทนชิน เป็นนักต่อสู้ที่อยู่ในความสนใจของคนญี่ปุ่นตลอดทุกไฟต์ จนกระทั่งเขาโคจรมาเจอกับ นักชกรุ่นราวคราวเดียวกันจากเมืองไทย อย่าง รถถัง จิตรเมืองนนท์
รถถัง มีเส้นทางที่แตกต่างกับ เทนชิน อย่างสิ้นเชิง เขาเป็นนักมวยที่ตระเวนชกมวยภูธร ล่าเดิมพันมาโดยตลอด ไม่ได้ถูกหมายตามองว่าเป็น นักมวยแถวหน้าของประเทศ
แต่เขาอาศัยความขยัน น้ำอดน้ำทน สไตล์บู๊ดูดัน บวกกับโอกาสที่ได้รับจากค่ายจิตรเมืองนนท์ ทำให้ รถถัง ถูกดันขึ้นมาชกในเวทีมาตรฐานบ่อยครั้งชึ้น พัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ถูกผลักดันให้ไปชกต่างประเทศ เจอกับ เทนชิน นาสึกาว่า
ก่อนการชก ไม่มีใครคิดว่า รถถัง จะเอาชนะ เทนชิน ได้ ? เพราะเทนชิน มีทั้งความเร็ว เทคนิคที่ดีกว่า อีกทั้งยังมีประวัติเคยชนะนักมวยไทยมาหลายคน แถมยังได้ชกในบ้าน ท่ามเสียงกองเชียร์ตัวเอง ในกติกาคิกบอกซิ่ง ที่ไม่ใช่มวยไทย เท่ากับว่าก่อนชก รถถัง เป็นรอง เทนชินทุกอย่างแบบสุดกู่
เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น กลายเป็นว่า รถถัง เดินหน้าเตะขา ต่อยหมัด ตามสไตล์ถนัดของเจ้าตัว ออกอาวุธอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ เทนชิน เน้นอาศัยความว่องไว การฟุตเวิร์กที่รวดเร็วหลบหมัด แล้วใช้จังหวะแย็บหมัดหน้า เล่นงานรถถังคืน ในช่วงยกแรกเกมออกมาค่อนข้างสูสี ผิดจากที่หลายคนคาดไว้ว่า รถถัง จะเสียท่าให้ เทนชิน
พอเข้าสู่ช่วงยก 2-5 รถถัง ทำเอาคนดูในสนามถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ เพราะเป็นฝ่ายเดินชิดบวกหมัดใส่ เทนชิน จนนักชกเจ้าถิ่น ออกอาวุธไม่ถนัด เริ่มออกอาการซึมอย่างเห็นชัด เสียทรง เสียเหลี่ยมไปหลายที
ความเร็วที่เคยมีในช่วงยกต้นๆ เริ่มหายไป จังหวะสวนกลับทำได้น้อยลง จนเกิดช็อตที่หลายคนพูดถึงนั่นคือ เทนชิน ใช้นวมล็อกขารถถัง เพื่อไม่ให้นักมวยไทยเตะได้ ก่อนฟ้องกรรมการว่าถูกแทงกระจับ ทั้งที่ความจริงลูกนั้น รถถัง เตะพับคาเข้าที่หน้าท้อง
วันนั้นหากวิเคราะห์แบบไม่เข้าข้างคนไทย ไม่ว่าจะตัดสินตามกติกาคิกบอกซิ่ง ที่เน้นให้คะแนนตามจำนวนอาวุธที่ออกและเข้าเป้า หรือตัดสินตามกติกามวยไทย ที่ดูจากทรงมวย อาการมวย ยังไง รถถัง ก็สมควรเป็นผู้ชนะ เพราะออกอาวุธเยอะกว่า ต่อยเข้าเป้ามากกว่า แต่ทว่า กรรมการ ตัดสินให้ทั้งคู่เสมอกัน ในเวลาปกติ 5 ยก ทำให้ เทนชิน กับ รถถัง ต้องชกในยกพิเศษอีก 1 ยก เพื่อหาผู้ชนะ
ในยกตัดสิน เทนชิน ดูช้าลงไปกว่าเดิมมาก กลายเป็นพ่อบุญรับมากกว่าออกอาวุธ ส่วน รถถัง ชกด้วยความมั่นใจ เดินหน้าไล่ทุบ ซูเปอร์สตาร์เจ้าถิ่น ที่เอาแต่ตั้งรับ สวมหมวกกันน็อกแน่น เมื่อหมดเวลาขอยกพิเศษ รถถัง แสดงสีหน้าที่มั่นใจอย่างชัดเจน ขณะที่ เทนชิน สีหน้านิ่ง ผิดปกติ ไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย
ผลการตัดสินในยกพิเศษ ให้เทนชิน เป็นฝ่ายได้รับการชูมือ ท่ามกลางบรรยากาศที่อึ้งกันทั้งสนาม และภายหลังจบเกม เทนชิน ที่เป็นผู้ชนะถึงกับ ร้องไห้ออกมาบนเวที พร้อมกับบอกว่า ตัวเองเขาสมควรเป็นผู้แพ้มากกว่า
ชัยชนะของ เทนชิน ถูกคนญี่ปุ่นวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก และกลายเป็นรอยด่างพร้อยของ นักชกพรสวรรค์สูงผู้มีภาพลักษณ์ขาวสะอาด ภาพลักษณ์ที่ดีของ เทนชิน ในตอนนั้นกลับตาลปัตรไปเลย รอยด่างชัยชนะของ เทนชิน ถึงขั้นที่ต้อง ว่าจ้างเอา ฟรอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ มาชกกับ เทนชิน เพื่อเรียกเรตติ้ง และความนิยมของนักมวยดาวรุ่งรายนี้กลับคืนมา
ส่วน รถถัง สิ่งที่เขาแสดงออกบนเวทีวันนั้น ทั้ง ท่าทีที่ท้าทายเชิญชวนให้ เทนชิน เข้ามาบวกหมัด การแสดงถึงความไม่เกรงกลัวต่อนักมวยชื่อดังของญี่ปุ่น และความดุดันในการชกแบบไม่มีหยุด ทำให้ รถถัง กลายเป็นนักมวยไทยที่พูดถึงอย่างมากในต่างประเทศ และเป็นไฟต์ที่ทำให้ ONE Championship เดินเกมรุกเต็มที่ เพื่อเซ็นสัญญานำ รถถัง มาชกในศึก ONE ให้ได้
ไม่มีใครรู้ว่า รถถัง – เทนชิน จะมีโอกาสได้รีเทิร์นมาเจอกันอีกไหม เพราะตอนนี้ ต่างฝ่ายต่างเป็นซูเปอร์สตาร์ในศึกของตัวเอง รถถัง ได้รับการโปรโมตและผลักดันอย่างเต็มที่จาก ONE ส่วน เทนชิน ก็เป็นพระเอกเบอร์ 1 ในศึก RISE
แต่การเจอกันในครั้งนั้นก็นับเป็น จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ที่ทำให้เขาโด่งดังในต่างแดน อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com