ราม่อน เด็กเกอร์ : ตำนานนักมวยไทยต่างชาติที่ว่ากันว่าดีสุด

ชื่อเสียงของมวยไทยในวันนี้ ชาวต่างชาติต่างรู้จักเป็นอย่างดี ดูได้จากยุคปัจจุบัน มีกำปั้นต่างแดนมากมาย หลากหลายเชื้อชาติ บินข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามาหากินบนแผ่นดินไทย

หนึ่งในนักมวยที่มีอิทธิพลกับชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก เขาคนนั้นมีนามว่า “รามอน เด็กเกอร์” ตำนานนักชกชาวดัตช์ ที่ประสบความสำเร็จทั้งในเส้นทางการเป็น นักมวยไทย และ นักคิกบอกซิ่ง

 ราม่อน เกิดที่เมืองเบรดา ทางตอนเหนือของประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวัยเด็ก กีฬาชนิดแรกที่ ราม่อน ฝึกหัดได้แก่ ยูโด หลังจากนั้นก็มาฝึก มวยสากล จนกระทั่งมารู้จักกับ มวยไทย ตอนอายุ 13 ปี และตั้งแต่วันนั้น ราม่อน ก็เทใจให้กับมวยไทย เพียรฝึกฝนมาตลอดในบ้านเกิด

เพียงอายุแค่ 18 ปี ราม่อน กลายเป็นนักชกมวยไทยระดับแชมป์ที่ เนเธอร์แลนด์ จากนั้นก็เริ่มตระเวนหาชกในทวีปยุโรป กวาดแชมป์มาได้มากมาย จนกระทั่งไร้ตัวสู้ หาคู่ชกไม่ได้ ราม่อน จึงตัดสินใจบินข้ามทวีปมาชกมวยไทย ในเวทีมาตรฐาน โดย ราม่อน อยู่ในศึกสายวันทรงชัย

เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ราม่อน เข้ามาชกในเมืองไทย ในยุคที่มวยไทยมีแต่สุดยอดนักมวย เขาเจอกับ กำปั้นฝีมือดีหลายรายในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็น นำพล หนองกี่พาหุยุทธ์, ซุปเปอร์เล็ก ศรอีสาน, โคบาล ลูกเจ้าแม่ทรายทอง, จอมโหด เกียรติอดิศักดิ์, แสงเทียนน้อย ส.รุ่งโรจน์, เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง, เด่น เมืองสุรินทร์ ฯลฯ

ราม่อน สร้างชื่อเสียงด้วยสไตล์และเทคนิคที่แตกต่างกับ นักมวยไทยทั่วไป เขามีพลังหมัดที่หนักหน่วง ออกหมัดได้เป็นชุด และลูกเตะขาที่รุนแรง แถมยังนำเอาการเตะตัดล่างแบบที่นิยมกันในคิกบอกซิ่งยุคปัจจุบัน มาใช้สู้กับนักมวย

ด้านการสู้วงใน ราม่อน ก็เป็นมวยฝรั่งที่สามารถยืนสู้เข่ากับคนไทยได้ และไม่กลัวศอก แม้หลายไฟต์เขาจะแพ้ หรือใบหน้าแตกยับเยิน แต่ราม่อนก็เป็นพวกที่ใจสู้ ไม่ยอมแพ้ บ่อยครั้งที่เขาเดินบวกศอกคืน ทั้งที่เลือดละเลงใบหน้า

โดยเฉพาะเรื่องหมัด ในยุคนั้น นักมวยไทย ไม่ค่อยนิยมใช้หมัดสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ เข่า กับ แข้ง ที่ออกแล้วได้คะแนนดี แต่การเข้ามา ราม่อน ที่ใช้หมัดได้ดี ทำให้นักมวยไทยในช่วงเวลานั้น ว่ากันว่า มีความตื่นตัวที่จะฝึกฝน และปรับมาใช้หมัดมากขึ้น

แม้ว่าชั้นเชิงมวยไทย การออกอาวุธของ เด็กเกอร์ จะไม่ได้สวยงามเหมือนนักมวยชาวไทย แต่สไตล์ที่แปลกใหม่ของเขา ยังทำให้ วงการมวยไทย ตื่นตัวถึงพัฒนาการของนักมวยฝรั่ง จากเดิมที่นักชกต่างชาติ เวลามาสู้กับคนไทย ในกติกามวยไทย ก็มักจะเป็นรองสุดกู่ สู้ไม่ได้

แต่เด็กเกอร์ พิสูจน์ให้เห็นว่า ฝรั่งก็สามารถพัฒนาได้ เป็นแรงบันดาลใจให้ ชาวต่างชาติรุ่นหลังอยากเข้ามาเรียนมวยไทย และอยากประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้เหมือนกับเขา

เวลาต่อมาหลังจากการชกมวยไทย เด็กเกอร์ ก็ผันตัวเองไปชก คิกบอกซิ่ง และกลายเป็น นักคิกบอกซิ่งชั้นแนวหน้าของยุคนั้น ที่ได้รับการยอมรับในยุโรป และญี่ปุ่น (K-1) แต่ถึงกระนั้น ราม่อน พูดเสมอว่า มวยไทย คือกีฬาที่เขารัก และให้การเคารพมากสุด ในศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย

ครั้งหนึ่งเคยมีคนสัมภาษณ์ เด็กเกอร์ว่า เขาคิดยังไงกับ K-1 และอาวุธมวยไทย อันไหนร้ายกาจสุด ราม่อน ตอบว่า K-1 เป็นการต่อสู้ที่ดี แต่ผมรักมวยไทยมากกว่า ส่วนอาวุธมวยไทย ทุกอย่างล้วนอันตรายทั้งสิ้น นักคิกบอกซิ่ง ที่เตะและต่อยเก่ง จะไม่มีทางเอาตัวรอดได้แน่ หากขึ้นชกมวยไทย ดังนั้นคนที่จะเป็นนักมวยไทยได้ ต้องมีดีทุกอย่าง

ภายหลังจากแขวนนวม เด็กเกอร์ เปิดโรงเรียนค่ายมวยไทยที่เมืองบ้านเกิด น่าเสียดายที่ในปี 2013 ราม่อน เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 43 ปี ทิ้งไว้แค่เพียงความทรงจำ และเรื่องเล่าของ “ไอ้กังหันมรณะ” ผู้สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นต้นแบบของนักมวยต่างชาติในยุคหลัง

ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com