น็อกสามคู่-เลือดสาดหนึ่ง! เก็บตกประเด็นมวยไทย 7 สี วีกแรก
เป็นเรื่องน่ายินดีที่ “มวยไทยอาชีพ” ได้รับไฟเขียวจากภาครัฐ ให้สามารถกลับมาจัดแข่งขันอีกครั้งภายหลังการระบาดใหญ่ โควิด-19 ระลอกสอง โดยรายการแรกที่ได้ประเดิมจัด คือ ศึกมวยไทย 7 สี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564
ผลการชกอย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่า จบแบบไม่ครบยกถึง 3 คู่รวด ส่วนคู่เอกถึงแม้จะชกครบยก แต่อุณหภูมิความดุเดือดก็ไม่แพ้ 3 คู่แรก งัดของมีคมอย่าง “ศอก” มาฟันใส่กัน ชนิดละเลงเลือดอาบใบหน้า จนแพทย์สนามต้องเรียกทั้งคู่มาดูบาดแผล
มวยเด็ด 789 เก็บประเด็นที่น่าสนใจ พร้อมบทวิเคราะห์หลังเกม เก็บตกประเด็นมวยไทย 7 สี นัดประเดิมศักราชใหม่ มาฝากแฟนหมัดทุกท่าน
เริ่มต้นที่คู่เปิดหัว “เกาะเต่า เพชรสมนึก เจอกับ พระแสงเล็ก ส.โชคมีชัย” ฝั่งน้ำเงิน ออกแข้งได้เร็วกว่า โชว์ลูกถีบสวย ๆ แต่มีจุดอ่อนตรงที่พอโดนหมัดของ เกาะเต่า มีออกอาการให้เห็น สุดท้ายเจอ เกาะเต่า สะบัดศอกสั้นสองทีติด เอาชนะน็อกไปได้ในยกที่ 4
คู่สอง เพชรนำชัย วีระพลมวยไทย พบกับ สิงห์ดำ ยุทธสุราษฏร์ ก่อนชกราคาเปิดให้ เพชรนำชัย เป็นต่อพอสมควร เพราะอยู่ในช่วงร้อนแรงชนะรวดมา 11 ไฟต์ติดต่อกัน แม้รูปร่างเสียเปรียบสิงห์ดำ และยกแรกเดินไปโดน สิงห์ดำ หวดเข้าเต็มชายโครง
แต่พอขึ้นยก 2 เท่านั้น เพชรนำชัย คุมเกมได้ทั้งหมด ไล่เจาะยาง สิงห์ดำ ถึงกับสะดุ้งเล็ก ๆ ผิดกับ เพชรนำชัย ไม่มีออกอาการให้เห็นเลย แม้โดนออกอาวุธของ สิงห์ดำ หลายที
ยกสามยิ่งชัดเจน เพชรนำชัย เหนือกว่า สิงห์ดำ มาก เตะสลับต่อยและฟันศอก สิงห์ดำ เปิดตำราไม่ทันป้องกันไม่อยู่ มาเจอศอกจนเซติดเชือกก่อนโดนเข่าลอยกระทุ้งจนกรรมการต้องนับ เมื่อลุกขึ้นมาก็โดนศอกอีกหน ต้านไม่ไหวแพ้น็อกไป ส่งผลให้ เพชรนำชัย บวกสถิติชนะรวด 12 ไฟต์ เป็นดาวรุ่งที่มาแรงจริง ๆ
รองคู่เอก เอกลักษณ์ ส.สมานการ์เมนท์ เจอกับ ปฏักสยาม วีเคเขาใหญ่ ก่อนชกเรตเปิดให้ เอกลักษณ์ ต่อแพงถึง 2-1 เพราะเชื่อมั่นว่าถ้า เอกลักษณ์ ได้คล้องเมื่อไหร่เกาะติดชิดตังแน่นอน
2 ยกแรกยังไม่มีใครเร่งเกมสักเท่าไหร่ ต่างฝ่ายต่างยังทำอะไรกันไม่ค่อยถนัด ตอนนั้นใครก็คิดว่า เอกลักษณ์ คงมาเน้นคล้องตียก 3 เป็นต้นไป แต่พอปล่อยตัวออกจากมุม เอกลักษณ์ ยังจดจ้อง ๆ หาจังหวะเหมาะเหม็งไม่ได้ และอีกอย่างคือ ไม่ค่อยบีบกระชับพื้นที่ เหมือนหลายๆไฟต์ก่อนหน้านี้ที่ เอกลักษณ์ พยายามเข้าถึงตัวจับล็อกคู่แข่งเร็วกว่านี้
พอเอกลักษณ์ไม่ได้เปิดเกมกดดันมาก ปฏักสยาม หรือชื่อเดิม อนุวัฒน์ ณัฐกินปลา ก็ชกง่ายขึ้น ก่อนโชว์สมองมวย หาจังหวะสวยงามฟันศอกใส่ เอกลักษณ์ ในยกที่ 3 ทำเอา อดีตแชมป์ปูนเสือและเจ้าของเสื้อสามารถ ถึงกับลงไปนั่งทรุดกับพื้นเวที ลุกขึ้นไม่ไหว พ่ายน็อกไป
ต้องชื่นชม ปฏักสยาม ที่ชกได้ฉลาด เก๋าเกมส์ วางแผนมาเป็นอย่างดี ส่วน เอกลักษณ์ อาจต้องกลับไปแก้จุดบกพร่อง เพราะไฟต์นี้เหมือนเร่งเกมช้าไปหน่อย อาจจะชะล่าใจเพราะก่อนชกดูเป็นต่อเยอะ สุดท้ายพลาดท่าเจ็บตัวและพ่ายแพ้ไป ทำให้ ปฏักสยาม แจ้งเกิดกับการต่อยช่อง 7 สี ครั้งแรกได้สำเร็จ
ปิดท้ายคู่เอก ซื่อสัตย์ แป๊ะมีนบุรี เจอกับ เพชรไพลิน สจ.โต้งปราจีน ก่อนชกราคาเปิดมาให้ ซื่อสัตย์ เป็นต่อ คู่นี้สู้กันสนุกมาก เพราะเป็นมวยบู๊เปิดเกมเหมือนกัน คนหนึ่งมีหมัด คนหนึ่งมีเข่า เพชรไพลิน ไปเสียท่ามีแผลแตกยก 2 และออกอาการเมา เรียกว่าโดน ซื่อสัตย์ เหมายกไป
แต่เพชรไพลิน แก้เกมดี ชกแบบคนไม่มีอะไรจะเสีย เร่งเครื่องโหมตีเข่าและชวน ซื่อสัตย์ มาแลกศอกกัน ซึ่งก็ได้ผล เพราะซื่อสัตย์ใช้หมัดน้อยลงหันมาสวนศอกคืน พอกลายเป็นเกมที่ ศอกแลกศอก สู้กันด้วยวงในเป็นหลัก ก็เข้าทาง เพชรไพลิน ที่ฟันได้คมกว่า แถมมีเข่ามาสู้
สองยกสุดท้ายรูปเกมสนุกสูสีบีบหัวใจคนดู ท่ามกลางใบหน้านักมวยที่ละเลงเลือด มีแผลแตกหลายจุด แต่ถ้าดูตามอาวุธและอาการมวย เพชรไพลิน พละกำลังดี, ยืนมวยมั่นคงกว่า ส่วน ซื่อสัตย์ มีช่วงที่แกว่ง ๆ ไปเหมือนกัน
ครบยกแม้ราคากลางอากาศเข้าทางฝั่งแดง แต่กรรมการให้คะแนนที่เวทีตัดสินให้ เพชรไพลิน ชนะไป ซึ่งก็เป็นการตัดสินที่ตรงตามภาพที่เห็นสายตา เพชรไพลิน ภาพรวมทุกอย่างวันนี้ทำได้ดีกว่า ซื่อสัตย์ จริง ๆ สมควรแล้วที่จะเป็นผู้ชนะในไฟต์นี้
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com