“เปย์-เปอร์-วิว” ทำไมดูมวยไทยออนไลน์ถึงต้องเสียเงินเพื่อเข้าชม ?
วงการมวยไทย มีความเปลี่ยนแปลงมากมายหลายอย่างเกิดขึ้น นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
โปรโมเตอร์ผู้จัดมวย ไม่สามารถเก็บรายได้จากค่าตั๋วเข้าชมเหมือนอดีต จากมาตรฐานป้องกันของรัฐ ที่ไม่อนุญาตให้ผู้ชมเข้าสนาม ก่อนที่ต่อมาจะมีการผ่อนปรนเป็นการจำกัดจำนวนคนดูในเวที
ผลกระทบตกไปถึง “นักมวย” ที่ต้องยอมได้ค่าตัวน้อยลงกว่าครึ่งหนึ่ง นักมวยเกรดเรือนแสน ได้ค่าแรงหลังโควิด-19 ไม่ถึง 50,000 บาทต่อนัด แต่ความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บบนผืนผ้าใบยังเหมือนเดิม บางรายโชคร้าย กรามหัก, ซี่โครงหัก, ดั้งเบี้ยว เพื่อแลกกับรายได้ที่ลดลง
ขณะที่มวยภูธร ยิ่งน่าเศร้า เพราะแทบไม่เคยถูกเหลียวแลหรือช่วยเหลือเลย ทั้งที่มวยภูธรในต่างจังหวัด คือ รากฐานของการผลิตทรัพยากรนักมวยไทยสู่อุตสาหกรรมนี้
แม้คนภายนอกจะมองว่า วงการมวยไทย สามารถกลับมาจัดการแข่งขันได้แล้ว แต่ในความเป็นจริง ทุกฝ่ายล้วนได้รับผลกระทบอย่างหนักและต้องแก้ไขปัญหามากมาย เพื่อให้ มวยไทยอาชีพ ดำเนินต่อไปได้
“ไม่ปรับตัวก็เท่ากับรอวันตาย” เป็นธรรมดาเมื่อเข้าสู่ยุคสมัยแห่งความเปลี่ยนผ่าน ทุกธุรกิจกิจการบนโลกย่อมต้องแสวงหนทาง และโอกาสใหม่ ๆ เพื่อดิ้นรนและทำให้องค์กรไปต่อได้
ในวงการมวยไทยก็เช่นกัน จากเดิมที่เราคุ้นชินกับการถ่ายทอดสดมวยไทยทางทีวี (มวยตู้) และการซื้อตั๋วเข้าชมที่สนาม ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่เข้าทำลายรูปแบบดั้งเดิมของอุตสาหกรรมกีฬาทั่วโลก
ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการจัดมวยไทย จึงหันมาขยับตัวสู่แพลทฟอร์มออนไลน์อย่างจริงจัง ดังเห็นได้จาก “ศึกมวยไทยออนไลน์” ที่ผุดขึ้นมามากมาย เพราะเป็นช่องทางที่มีต้นทุนไม่สูงมากเมื่อเทียบกับทีวี แถมเข้าพฤติกรรมของผู้ชมยุคนี้ ที่ติดตามดูการถ่ายทอดสดกีฬา ทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สวนทางกับทีวีที่ลดลง
แม้ในตอนแรกแนวทางของ มวยไทยออนไลน์เต็มรูปแบบ จะเป็นการสตรีมมิ่งให้ชมฟรี ไม่เสียค่าดู เน้นไปที่การหารายได้จากสปอนเซอร์เป็นหลัก
แต่ต้องยอมรับว่าพอเป็น มวยออนไลน์เต็มรูปแบบ (ไม่มีถ่ายทางทีวี) อำนาจต่อรองในการขอสปอนเซอร์ และเม็ดเงินที่ได้ย่อมน้อยกว่า มวยทีวี ที่ถือเป็นสื่อมวลชนแขนงหนึ่ง โปรโมเตอร์ที่จัดมวยออนไลน์ จึงต้องเจอกับภาวะขาดทุนหนักแทบทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะรัดเข็มขัดมากแค่ไหนก็ตาม
เมื่อช่องทางการหารายได้จากผู้สนับสนุน มีข้อจำกัดและไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จึงเป็นอะไรที่แปลกใหม่ไม่น้อยสำหรับวงการมวยไทย เพราะมีการนำเอาระบบ Pay-Per-View (เปย์-เปอร์-วิว) หรือ การจ่ายเงินเพื่อรับชมการแข่งขันในแมตช์นั้น
ระบบแบบนี้แพร่หลายในฝั่งอเมริกาและยุโรปมานาน เนื่องจากวัฒนธรรมการเสียเงินรับชมกีฬา ถือเป็นเรื่องปกติของคนในบ้านเมืองเขา ที่จะเลือกเสียเงินหรือไม่เสียเงินให้กับคู่ไหนก็ได้
แต่สาเหตุที่ เปย์-เปอร์-วิว ยังไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทย เพราะคนไทยยังไม่คุ้นชินกับการที่ต้องจ่ายเงินเพื่อกับการดูการแข่งขันแบบนัดต่อนัด ส่วนใหญ่คนบ้านเรา จะคุ้นเคยกับระบบทีวีบอกรับสมาชิก เช่น ทรูวิชั่นส์ ที่เหมาจ่ายเป็นรายเดือน
ยิ่งโดยเฉพาะมวยไทย หากเป็นการถ่ายทอดสดทางทีวีนั้น ย่อมคู่กับการดูฟรีมานาน จนคนติดภาพไปแล้วว่า “มวยไทย” ถ้าไม่ได้เข้าไปดูติดขอบสนาม ก็ต้องดูฟรีสิ จะเสียเงินทำไม ? แต่เนื่องด้วยสภาวะปัจจุบัน มันมีความจำเป็นบางอย่างที่บีบให้ โปรโมเตอร์จัดมวยออนไลน์ ต้องลองนำเอาระบบ เปย์-เปอร์-วิว มาใช้
ยกตัวอย่าง ศึกราชดำเนิน สเตเดี้ยม ไลฟ์ ของเวทีมวยราชดำเนิน (ถ่ายทอดสดทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี) มีการถ่ายทอดสดทาง https://www.muay.tv และ AIS Play โดยผู้ชมจะต้องเสียเงิน ซื้อโค้ดเข้าดู ในราคา 29-59 บาท ต่อนัด
ขอบคุณภาพจาก : FB Rajadamnern Stadium เวทีราชดำเนิน
ส่วนศึกเชฟบุญธรรม มวยไทยออนไลน์ มีเปิดกลุ่มลับเฉพาะสำหรับสมาชิก ที่จ่ายเงินเข้าชม โดยเรียกเก็บเพียงนัดละ 40 บาทต่อนัด
แน่นอนว่าช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ก็มีทั้งเสียงบ่นและวิจารณ์ว่า ทำไมถึงต้องเก็บเงินจากผู้ชม ? รวมถึงปัญหาด้านเทคนิคที่ล่าช้า บางคนโอนเงินแล้วแต่ได้รับการตอบรับช้า
แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง การที่เราเสียเงินเปย์-เปอร์-วิว ให้ผู้จัด เท่ากับเป็นการส่งเสริมและช่วยสนับสนุนให้ มวยไทยอาชีพ เดินหน้าต่อไปได้
นอกจากนี้ข้อดีของระบบเปย์-เปอร์-วิว ทำให้ผู้ชมมีสิทธิ์ที่เลือกด้วยตัวเองว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ รวมถึงผู้ชมยังสามารถสะท้อนฟีดแบ็ก ไปถึงคนจัดได้ดังกว่าการชมฟรี เช่น นัดนี้ประกบไม่สนุก หรือกรรมการตัดสินไม่เป็นธรรม เลยไม่อยากดู ส่งผลให้คนจึงซื้อโค้ดนัดนี้น้อย
ข้อมูลเหล่านี้ย่อมต้องถึงหู โปรโมเตอร์ ที่จะนำไปปรับปรุงแก้ไข เพราะเปย์-เปอร์-วิว เป็นระบบที่คนจัดจำเป็นต้องฟังเสียงผู้ชมที่เสียเงินมากขึ้น ต่างจากระบบถ่ายทอดสดฟรี ที่ผู้จัด ย่อมให้ความสำคัญและฟังเสียงของสปอนเซอร์ มากกว่าคนที่ดูฟรี
เมื่อมีคนดู เปย์-เปอร์-วิว มากขึ้นจากถ่ายทอดสด 1 นัด ผลดีที่จะตามมาคือ ผู้จัดจะมีรายได้เพิ่มขึ้น สามรารถนำไปเพิ่มค่าตัวให้นักมวยได้ รวมถึงนำไปปรับปรุ ยกระดับพัฒนาการถ่ายทอดสดและการแข่งขันให้ดีกว่าเดิม
ดังนั้นวันนี้ หากเรารักมวยไทย และเห็นสมควรว่า คู่มวยนัดนี้ที่ประกบออกมา น่าสนับสนุน อย่าลังเลใจที่จะจ่ายเลยครับ
เพราะราคาเข้าชมจากระบบ “เปย์-เปอร์-วิว” ของมวยไทย ไม่ได้แพงมากเกินกำลังมากไป ถึงแม้จะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ และรู้สึกไม่คุ้นชิน จนอาจรู้สึกเสียอารมณ์ที่ต้องมาโอนเสียค่าเงินเข้าชมทางออนไลน์
แต่ก็อยากลองคิดซะว่า เหมือนเรากำลังจ่ายเงินเพื่อซื้อกาแฟสดสักแก้วหรือข้าวสักมื้อ โดยเสียเงินจำนวนหลักสิบบาท เพื่อแลกกับความบันเทิงติดหน้าจอ แถมทุกการจ่ายของเรา ยังเป็นการช่วยสนับสนุนวงการมวยไทยอาชีพไปในตัวอีกด้วย
เพราะถ้าคนจัดมวยไทยออนไลน์แล้วอยู่ไม่ได้ อนาคตของคนในมวยไทยอาชีพทุกภาคส่วน ก็คงยิ่งลำบากกว่าเดิม
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789
