“เพชรสาริต” บทเรียนที่เกือบต้องแลกด้วยชีวิต
หากไปถามนักมวยร้อยละร้อย ว่าตอนนี้ต้องการอะไรมากที่สุด ? คำตอบคงเหมือนกันทั้งหมด ก็คือ ขอโอกาสในการได้ทำมาหากิน ชกมวยไทยประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว
เพราะนี่ก็ผ่านมานานหลายเดือนแล้ว ที่มวยไทยถูกคำสั่งห้ามไม่ให้จัดแข่งขัน แม้กระทั่งระบบปิด ทั้งที่ตลอดระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา คนในวงการมวยไทยต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับภาครัฐ ยอมหยุดจัด ไม่มีรายได้ หรือยอมจัดขาดทุนย่อยยับ
และทุกครั้งที่ได้โอกาสให้กลับมาจัดมวยไทยได้ ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่มีการติดเชื้อใหม่จากเวทีมวย หรือจากการจัดมวยไทย มันน่าเศร้าใจตรงที่ มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติเราแท้ ๆ แต่กลับไม่สามารถให้ลูกหลานที่สืบสานและอนุรักษ์มรดกทางภูมิปัญญาได้มีที่ทางทำมากิน
เปรียบเทียบง่าย ๆ รายการทีวี ช่องต่าง ๆ มีการบันทึกเทปรายการ ถ่ายทำกันในสตู ในพื้นที่ปิดแบบเดียวกับมวย แต่ทำไมดารา นักร้อง ยังทำมาหากินได้ ยังถ่ายทำได้ แต่พอเป็นมวย กลับแข่งไม่ได้
ทั้งที่นักมวยก่อนชกก็ใช้เวลาเป็นเดือน อยู่แต่ในค่าย ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้เจอผู้คนข้างนอก โอกาสติดเชื้อน้อยมาก เวลาแข่งจริง ก็แข่งแบบระบบปิด มีคนเข้าสนามแค่หลักสิบเท่านั้น มันจะเป็นคลัสเตอร์ได้อย่างไร ?
แน่นอนครับ พอทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ นักมวยไทยที่ไหนจะมีกะจิตกะใจชกมวย คนไหนพอมีเงินเก็บ ก็คงพอประคองตัวไปได้บ้าง แต่อีกหลายคนไม่ได้เป็นเช่นนั้น บางคนมีภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายที่เสียทุกเดือน บางคนเป็นเสาหลักครอบครัว
บางคนมีปัญหาชีวิต ไร้ซึ่งทางออก ไม่มีมวยต่อยก็เหมือนคนไม่มีเงินเดือนใช้ พอไม่มีเงินก็ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ เพราะคำสั่งเบรกห้ามจัดมวย ทำให้นักมวยไทยหลายคน ไม่มีทางไป ไม่รู้จะเดินหน้าไปทางไหน จนบางคนถึงขั้นคิดสั้นอยากปลิดชีวิตตัวเอง เหมือนดั่งกรณีของ เพชรสาริต (ซันโต๊ส) หมูปิ้งอร่อยจุงเบย
เพชรสาริต ถือเป็นนักมวยที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เป็นดาวชกเบอร์ต้น ๆ ของค่าย ก.แสงจันทร์ มีเสี่ยเก่ง พลังวิมุติ กับ เสี่ยเปีย สาริต ให้การสนับสนุนดูแล
ช่วงที่ผ่านมา เพชรสาริตก็มีรายการต่อยตลอด เป็นนักชกที่เคยล่าอัดฉีดหลักแสนบาทมาแล้ว จนมาเจอพิษโควิด-19 เล่นงานทำให้ขาดรายได้จากการขึ้นสังเวียน ประกอบกับจังหวะชีวิตที่มีปัญหาชีวิตส่วนตัวรุมเร้า
จึงทำให้ ตัดสินชั่ววูบกินผงซักฟอกหวังปิดชีวิตตัวเอง เคราะห์ดีที่มีผู้พบเห็นและนำตัวส่งโรงพยาบาล รักษาตัวพ้นขีดอันตรายได้ทัน
ที่น่าช้ำใจสุด ๆ คงเป็นการเปิดเผยจาก เสี่ยเก่ง พลังวิมุติ เข้าไปสอบถามลูกศิษย์ว่าทำไม “ถึงต้องกินผงซักฟอกเพื่อฆ่าตัวตาย” คำตอบที่ได้รับคือ เขาไม่มีเงินซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำกินฆ่าตัวตาย คิดดูเอาว่าคนมวยทุกวันนี้ลำบากกันขนาดไหน
ก็ได้แต่หวังว่า นี่จะเป็นบทเรียนและตัวอย่างให้ คนที่มีอำนาจหันมาสนใจคนวงการมวยไทย อย่ารอให้ถึงวันที่ต้องสูญเสียลูกหลานนักมวยไทยไป เพียงเพราะคำสั่งห้ามจัดที่ต่อเนื่องยาวนาน แต่ไม่มีแนวทางแก้ไข และไม่มีการเยียวยา ทางออกให้แก่พวกเขาได้ทำงานหาเงิน
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com