ในความเป็นจริงแล้ว ผู้เขียน เคยสัมผัสกับคนมวยกัมพูชาอยู่เยอะพอสมควร ทั้งนักมวย เทรนเนอร์ ผู้จัดการ นายหน้าส่งมวย พวกเขาอ้อนน้อม ถ่อมตน ยิ้มเก่ง มีความเฟรนลี่สูง แถมชอบกินกุ้งเอามากๆ แต่พอเป็นภาพใหญ่ระดับประเทศ พวกเขากลับหยิ่งผยอง และมีความชาตินิยมจนน่าขนลุก จนบางครั้งก็ละเลยความสัมพันธ์อันดี ที่เคยมีระหว่าง ไทย-กัมพูชา
ดราม่า มวยไทย กับ กุนขแมร์ นับวันยิ่งทวีคูณความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งโซเซียลไทย และ กัมพูชา ต่างไม่มีใครยอมใคร ในความรู้สึกของเราคนไทย ไม่พอใจมากที่คนกัมพูชา “เคลม” มวยไทย ว่ามีต้นกำเนิดมากจากบ้านเขา ซึ่งคนกัมพูชายึดเอาตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่อย่างไร
ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือน “เราไปเห็นของชิ้นนึงในร้าน เราก็ทำงานจนมีตังไปซื้อมาเป็นของเรา เวลาผ่านไปของชิ้นนั้นกลับมีมูลค่าเป็นที่หมายปองของคนมากมาย แต่อยู่ๆคนข้างบ้านมาบอกว่าของชึ้นนั้นต้องเป็นของเขาสิ เพราะเขาเห็นก่อน แต่แค่ยังไม่มีตังซื้อเท่านั้น”
อืมมม นะ
สำหรับบทความสัปดาห์นี้แอดมินก็คิดอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องราวที่กำลังเป็นประเด็นตรงนี้ดีไหม แต่นับวันกระแสแรงไม่มีตก ก็จะมาเจาะกันว่าพื้นเพของคนกัมพูชา เขาเป็นอย่างไร และเพราะอะไรอยู่ๆ ก็มุ่งเป้ามาเล่นงาน “มวยไทย” ซะงั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้หลายสิบปี แทบไม่มีกระแสอะไรพวกนี้ออกมา
[ประเทศกัมพูชา อดีตเคยยิ่งใหญ่]
ตามประวัติศาตร์ที่เราเคยได้ร่ำเรียนกันมา อาณาจักร “ขอม” คือความยิ่งใหญ่ของคนภูมิภาคนี้ เคยเป็นพี่ใหญ่ที่ปกครองทุกหัวเมือง ก่อนจะล่มสลายลงไปตามกาลเวลา เกิดเป็นประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ในความรู้สึกของคนกัมพูชา ก็ปลูกฝังกันมาว่าเขาเคยเป็น “พี่ใหญ่” ความรู้สึกตรงนี้ก็ตกทอดมาสู่รุ่นสู่รุ่น ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม ภาษา คนกัมพูชาเขามองว่า เขาคิดมาก่อน เขาทำมาก่อน
กับมวยไทยก็เช่นกัน ก็ไม่แปลกที่คนกัมพูชา เขาจะคิดแบบนั้น แต่อย่าลืม คนไทยก็พยายามอย่างหนักเช่นกัน จนมวยไทย ดังทะลุโลกขนาดนี้ ดังนั้นถ้ามองกัน ณ เวลา ปัจจุบัน คนกัมพูชาไม่มีสิทธิ์มาเคลมอย่างแน่นอน เอาอดีตมาอ้างอันนี้ไม่ได้ แต่จะเปล่าประกาศอะไร ก็ยังเชื่อว่า ไม่น่ามีผลกระทบกับมวยไทยอย่างแน่นอน แค่อาจจะน่ารำคาญ ในบางครั้งเท่านั้น
[ประเทศที่พ่ายแพ้สงคราม กำลังปลูกฝังเรื่องชาตินิยม]
ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวเขมร” เหตุการณ์สุดสลด ที่คนกัมพูชา ฆ่ากันเอง เนื่องจากเขมรแดงต้องการที่จะเปลี่ยนประเทศให้กลายเป็นสาธารณรัฐเกษตรกรรมสังคมนิยม และ หวาดระแวงภัยคุกคามอย่างเวียดนาม ในยุคสงครามเย็น มีคนกัมพูชา เสียชีวิตมากกว่า 1.5-2 ล้านคน และหนีอพยพออกมาอีกทั้งในเวียดนาม และ ไทย อีกมากมาย
หลังจากเหตุการณ์นั้นทางรัฐของกัมพูชา พยายามผลักดันเรื่องความเป็นชาตินิยม สร้างค่านิยมให้คนรักชาติ เพื่อลบรอยร้าวจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ว่าคนกัมพูชาจะเข้าร่วมการแข่งขันอะไร ก็มักจะมีกองเชียร์คอยสนับสนุนอย่างแรงกล้าอยู่เสมอ
โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ จะเห็นได้ชัด เวลานักชกกุนขแมร์ขึ้นชก จะมีคอมเม้นท์จากชาวกัมพูชามากมาย สุดท้ายก็จบลงที่พวกเขาเหล่านั้นทะเลาะกับคนไทย และ ถ้านักมวยเขาแพ้ ผู้จัดก็จะโดนข้อกล่าวหาว่า โกง ติดตามไปด้วย
[เพราะ กุนขแมร์ พอสู้ มวยไทย ได้]
ประเทศกัมพูชา ไม่ว่าจะเข้าแข่งขันอะไรก็ตาม มักจะประสบความพ่ายแพ้อยู่ร่ำไป ฟุตบอล ก็เป็นทีมรองบ่อนให้ไทย และ เวียดนาม คู่อริ ถลุงเล่นมาหลายทศวรรต แต่ทว่าในซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา นักชกกุนขแมร์ กลับมีผลงานที่ดี มีเหรียญติดไม่ติดมือ ทางรัฐกัมพูชา จึงเห็นช่องตรงนี้ ในการพลิกสถานการณ์ จากผู้แพ้ตลอดมา ได้เงยหน้าขึ้นรับชัยชนะบ้าง
ยิ่งในปีนี้ (2566) กัมพูชา เตรียมจัดมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ที่เปรียบเสมือนเวทีที่กัมูชา จะได้มีแสง เพราะคนกัมพูชาคิดแล้วว่า กุนขแมร์ สามารถล้ม มวยไทย และนักสู้จากชาติอาเซียนอื่นๆได้ ไม่แปลกใจเลยที่ กัมพูชา จะใช้เวทีแห่งนี้ ทำการประหาร มวยไทย ให้ชาวโลก ได้เห็น ว่ากูคือต้นตำหรับ
แน่นอน ถ้าเกิดว่าได้แข่งขันกันขึ้นมาจริงๆ ย่อมมีมหกรรมการโกง เกิดขึ้นแน่ เมื่อเชื่อคอยดู
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ อาจจะเป็นแค่เหตุผลส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าเรามองกันจริงๆ ก็คงไม่มีใครอยากจะเป็นผู้แพ้ตลอดไป เหมือนคนไทยของเราอย่างฟุตบอล เราก็อยากล้มญี่ปุ่น เกาหลี ให้ได้ ส่วน กัมพูชา ก็อยากจะล้มไทย เพื่อให้ กุนขแมร์ ได้ผงาดบ้างเช่นกัน แต่จะทำได้หรือไม่นั้น มีแต่คนไทยเท่านั้นที่เป็นผู้ให้คำตอบ ตราบใจที่วงการมวยยังไม่เป็นปึกแผ่น ก็ไม่แน่อนาคต มวยไทย อาจจะเป็นฝ่ายกลายเป็นมวยรองบ่อนได้บ้างเหมือนกัน
สุดท้ายประเด็นดราม่าตรงนี้จะยุติลงอย่างไร หรือจะเป็นแผลในใจของคนไทยเหมือนคดี “เขาพระวิหาร” หรือไม่ อันนี้ก็ตอบไม่ได้จริงๆ
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com
