คฤหาสน์ ส.สุภาวรรณ : ตำนานยอดเซียนอัจฉริยะจากเมืองพล

"คฤหาสน์ ส.สุภาวรรณ" ตำนานยอดเซียนอัจฉริยะ


    เจ้าเซียน, ยอดเซียน, ยอดมวยอัจฉิรยะ ทั้งหมดคือฉายาของ คฤหาสน์ ส.สุภาวรรณ ตำนานนักมวยไทยที่มักถูกกล่าวขวัญถึง “หลักเหลี่ยม ไอคิว และการยืนมวยที่เหนือชั้นไปอีกขั้น” ที่ในยุคปัจจุบัน แทบมองไม่เห็นใครเหมือนกับเขา 

    คฤหาสน์ มีชื่อจริงว่า สุวิทย์ อยู่ชุมพล เป็นชาวอำเภอพล จังหวัดขอนแก่น เริ่มต้นชกมวยในชื่อ เซียนน้อย ส.พลสมิง ก่อนมาแจ้งเกิดในเมืองกรุง ในยุคที่เวทีลุมพินี และราชดำเนิน อัดแน่นไปไปด้วย กำปั้นเรือนแสน มากมายจนนับแทบไม่ไหว 

    แม้ว่าโครงสร้างร่างกาย “คฤหาสน์” จะเป็นคนตัวเล็ก ประกบคู่เจอใคร ก็มักเสียเปรียบเรื่องรูปร่างอยู่ตลอด แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ เมื่อขึ้นไปบนสังเวียน เราแทบจะไม่เห็นว่า สรีระเป็นอุปสรรคของ เจ้าเซียน เพราะความสามารถของ คฤหาสน์ ก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายไปไกลมาก 

    หากสังเกตให้ดีในเทปเก่าๆ จะเห็นว่า คฤหาสน์ เป็นนักชกที่มีความแข็งแรงมากๆ หลักดี ยืนมวยขาดูมั่นคง บวกกับความเป็นนักมวยฉลาด ไหวพริบดี อ่านทาง กะจังหวะคู่ต่อสู้เก่ง ทำให้เขาสามารถหาจังหวะออกอาวุธของ คฤหาสน์ ได้เป็นชุด บางครั้งมีการผสมผสานทั้งลูกเตะขา ต่อยหมัด และฟันศอก ได้ในกระบวนเดียว เบิ้ลสามที ก็มีเห็นอยู่บ่อยครั้ง 

    ที่สำคัญการออกอาวุธของ คฤหาสน์ ไม่ใช่การถอยสร้างจังหวะ แบบนักมวยยุคนี้หลายราย แต่เป็นการเดินและหาช่องชิงเหลี่ยม เวลาเจอมวยฝีมือจัดจ้าน เขาไม่กลัว ปักหลัก สู้กันทีต่อที แก้เกมกันช็อตต่อช็อต สู้กันด้วยสมองมวย ไอคิว ใครจะดีกว่ากัน

    เรียกว่า ถ้าคู่ต่อสู้ไม่เก่งจริง เปิดช่องไฟเพียงนิดเดียว คฤหาสน์ ก็สามารถฉกฉวยความได้เปรียบนั้นมาสร้างคะแนนให้ตัวเอง หรือไม่ก็ทำให้ คู่ต่อสู้ เสียเหลี่ยมลูกกำนันไปเลย

    ส่วนจังหวะวงใน คฤหาสน์ ที่แม้จะเป็นคนตัวเล็ก แต่ก็มีลูกฟันศอกระยะประชิดที่ฟันได้คม และได้น้ำได้เนื้อ แถมยังเป็นคนที่เก็บกันอาวุธได้อย่างหมดจด ไม่เหลือร่องรอย แล้วใช้หลักเหลี่ยมมวยไทย สมองมวยโต้คืน นั่นทำให้ ร่างกายของ คฤหาสน์ ตลอดเส้นทางอาชีพแลดูไม่บอบช้ำนัก แม้จะสู้กับคนตัวใหญ่กว่ามาตลอด เพราะสามารถเอาตัวรอดมาได้ด้วยความฉลาดหลักแหลม

 

    คฤหาสน์ เคยเป็นแชมป์ลุมพินีถึง 3 รุ่น (108,118,122 ปอนด์) และเคยมีค่าตัวสูงสุด 240,000 บาท ผ่านการชก นักมวยระดับปรมาจารย์มานับไม่ถ้วน อาทิ แก่นศักดิ์ ส.เพลินจิต, พงษ์ศิริ พ.ร่วมฤดี, หนึ่งอุบล ศิษย์เลิศศัย, โอเลห์ เกียรติวันเวย์, ฮิปปี้ สิงห์มณี, ลำน้ำมูล ส.ศุมาลี, วีระพล สหพรหม, ฉัตรชัย ไผ่สีทอง, วั่งจั่นน้อย ส.พลังชัย, ศิลปไทย จ็อกกี้ยิม ฯลฯ

    หากจะเปรียบกับ นักมวยในยุคนี้ คนที่ดูแล้วใกล้เคียงสุด แต่ก็ไม่ถึงกับเหมือนเสียทีเดียวในเรื่องความครบเครื่อง และการยืนมวย ก็คงเป็น พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ที่รูปร่างเล็ก แต่สามารถออกอาวุธได้รวดเร็ว และเป็นชุด ทั้งลูกเตะต่ำ ต่อด้วยกระแทกหมัดช่วงบน ในชุดเดียว

    คฤหาสน์ จึงเป็นนักชกที่ นักมวยยุคหลัง ควรนำเอามาศึกษาทั้งในเรื่องของ ปฏิภาณไหวพริบ การยืนมวยที่สวยงาม รวมถึงการออกอาวุธที่ทำได้อย่างยอดเยี่ม หมดจด 

    ปัจจุบัน คฤหาสน์ ยังคงทำงานเกี่ยวกับมวย โดยผันตัวเองมาเป็น เทรนเนอร์ และใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัด เชียงใหม่  แม้กาลเวลาจะมานานหลายสิบปี ตั้งแต่วันที่เขาแขวนนวม แต่เชื่อเหลือว่า แฟนมวยยุคเก่าหลายคน ยังจดจำ ลูกสลับขาเตะ และฟันศอกของ “ยอดเซียน” คฤหาสน์ ส.สุภาวรรณ ได้อย่างไม่มีทางลืม

 


ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com