ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยฯ : ซ้ายดาราที่ยังรอโอกาสคืนสังเวียน

"ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม" รอโอกาสคืนสังเวียน


    ปี 2561 เป็นทั้งช่วงเวลา ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ก้าวขึ้นมาเป็น ยอดนักชกเบอร์ 1 แห่งยุคอย่างเต็มตัว จากฟอร์มการชกที่ร้อนแรง โดยเฉพาะแข้งซ้ายที่สุดจัดจ้าน ทั้งจังหวะเตะสูง และลูกถีบ ต้องยอมรับว่าตอนนั้น ใครก็หยุด ตะวันฉาย ยากจริงๆ

    นับตั้งแต่แพ้ มงคล ควายทองยิมส์ เมื่อปี 2560 ตะวันฉาย ก็เดินหน้าโชว์ฟอร์มเด็ดดวง ล้างตา มงคลชัย, เอาชนะ หยก พรัญชัย 2 ไฟต์ติด, ไล่เตะ เฟอร์รารี จักรยานมวยไทยยิม, ปราบพยศ หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ก่อนมาพีคสุดๆ ด้วยการเอาชนะ กุหลาบดำ สจ.เปี้ยกอุทัย ยอดมวยคนล่าสุด (ในปีนั้น) 3 ไฟต์ติดต่อกัน จนหายคาใจ

    หลังจากนั้น ตะวันฉาย ยังเอาชนะ TKO หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ เรียกว่านาทีนั้น นักมวยเกรดเดียวกัน หาตัวชกไม่ได้แล้ว ทำให้มีกระแสเรียกร้องขึ้นชั้นไปเจอ ยอดมวยรุ่นพี่อย่าง แสงมณี แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม ซึ่งตอนนั้นถือเป็นคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อสุด ตะวันฉาย รูปร่างดีกว่า ส่วนแสงมณี เก่งมาก่อน กระดูกมวยเป็นต่อ 

    การเจอกันในภาคแรก ตะวันฉาย อาศัยนาทีทองเตะก้านคอส่ง แสงมณี เซถลาลงไปนับ 8 ก่อนปิดบัญชีด้วยการถีบเอาชนะน็อกไปได้ ณ ตอนนั้น ตะวันฉาย ผงาดขึ้นมาเป็นตัวเต็งที่ลุ้นรางวัลยอดมวยถ้วยพระราชทาน เพราะฟอร์มขนาดนี้ยังไงก็ต้องให้ 

    แสงมณี และ ตะวันฉาย ได้มีโอกาสเจอกันภาค 2  ในเวตที่ใหญ่กว่าเดิม เพราะ ตะวันฉาย โตวันโตคืน เริ่มบีบน้ำหนักลงไม่ไหว ในภาคนี้ แสงมณี เตรียมตัวมาแก้ทางแข้งซ้ายของ ตะวันฉาย ได้ดี และอาศัยความเก๋า พรรษามวยที่ดีกว่า ถอนแค้นคืนได้สำเร็จ 

    ใครจะไปคิดว่าความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ ตะวันฉาย ชวดรางวัลยอดมวยฯ ทั้งที่ว่ากันตามจริง การแพ้มวยระดับ แสงมณี ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหาย หรือเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะดีกรีของ แสงมณี ก็ไม่ธรรมดา ในอดีตนักมวยที่ได้รางวัลยอดมวย บางคนก็มีสถิติที่แพ้ในปีนั้นด้วยซ้ำ 

    หลังพ้นผ่านช่วงปีที่ดีสุด ตะวันฉาย ก็เริ่มเจอกับช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากอายุยังน้อย และโครงสร้างร่างกายที่เป็นคนตัวใหญ่ ทำให้ตะวันฉาย ไม่สามารถบีบน้ำหนักลงมาต่อยรุ่น 140 ปอนด์ลงได้แล้ว 

    แม้จะมีความพยายามประกบ ตะวันฉาย เจอกับ แสงมณี ภาคสาม แต่คู่นี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นยาก เพราะเรื่องน้ำหนักตัวที่ตกลงกันไม่ได้ 

    ครั้นพอจะประกบกับ นักมวยที่เก่งๆ ในเวต 141 ปอนด์ขึ้นไป ก็หาคู่ชกยากเหลือเกิน หลังจาก ตะวันฉาย ประเดิมเวตใหม่ ด้วยการเอาชนะ ชูเจริญ ดาบรันสารคาม แบบขาดลอย ไร้ราคาต่อรอง เมื่อเดือน กันยายน ปี 2562 

    ซึ่งหลังจากนั้น ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยฯ ยังไม่ได้มีโอกาสกลับมาชก มวยไทย บนแผ่นดินเกิด แม้จะมีคิวไปต่อยต่างประเทศ ที่เมืองจีนอยู่บ้าง แต่ลึกๆ เจ้าตัวก็ยังหวังได้ขึ้นสังเวียนเวทีมาตรฐาน เหมือนช่วงปีทอง ปี 2561 ที่เขามีรายการสม่ำเสมอ 

    น่าเสียดายที่ผลจากแพ้น็อค มวยรอบ ที่ประเทศจีน ทำให้รายการที่ถูกประกบเจอกับ หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ภาค 3 ในเดือน ก.พ.ต้องเลื่อนออกไป และแม้จะมีความพยายามประกบให้คู่นี้ ได้ฟาดปากกันอีก ในวันที่ 21 มี.ค. ที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่คู่นี้ก็ต้องถูกยกเลิกไป เนื่องจากโควิด-19 แพร่ระบาด

    และยังไม่มีใครรู้ว่า มวยไทย จะกลับมาชกได้อีกเมื่อไหร่… ถึงต่อให้กลับมาเป็นปกติแล้ว ก็ยังไม่แน่นอนว่า ตะวันฉาย จะต้องได้คิวขึ้นรายการอีกครั้งเมื่อไหร่ 

    ซึ่งจุดนี้ก็น่าเห็นใจ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยฯ เสียเหลือเกิน ที่เว้นว่างจากการชกมวยไทย มานานหลายเดือน แถมยังต้องมาเจอกับสถานการณ์ที่มวยหยุดแข่งอีก ยังไงก็ขอเอาใจช่วย เจ้าของฉายา ซ้ายดารา ให้กลับมามีรายการบ่อยๆ และโชว์การเตะ การถีบที่สวยงามให้แฟนๆ ได้ชมอีกครั้ง ส่วนเรื่องแพ้ชนะขอให้เป็นไปตามเกมกีฬา

 


ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com