หลังจากกรำศึกมานาน แสงมณี ล่าสุดตัดสินใจพักร่างกายของตัวเองด้วยการเดินทางไปสมทบกับยอดมวยชาวไทยอีกหลายคน ในแคมป์ Evolve ที่ประเทศสิงคโปร์ กับบทบาทใหม่การเป็นครูมวยยังต่างแดน
วันนี้ มวยเด็ด 789 จะพาท่านผู้อ่านไปย้อยรอยความยิ่งใหญ่ของ “ทารกเงินล้าน” แสงมณี กับ เหตุการณ์ที่อยู่ในความทรงจำของ ยอดมวยจาก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น รายนี้กัน
– เด็กจอมล่าเดิมพัน ก่อนดังเป็นพลุแตกในรายการ “ศึกอัศวินดำ”
แสงมณี เริ่มต้อนชกมวยตั้งแต่อายุได้เพียง 7 ขวบ โดยมีคุณพ่อ หนูกัน สิทธิเดช หรือในนาม เพลงศึก สุรสีห์ปียะ เป็นผู้ถ่ายทอดวิชามวยไทยให้ สมัยเริ่มชกมวยน้ำหนักเพียง 25 กก. ก็กินเดิมพันแถบภาคอีสานมาเรียบ เจอมาทั้ง ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9,วันชนะ อ.บุญช่วย,ยอดขุนศึก,ฤทธิเทวดา,วรวุฒิ,เมืองไทย
โดยฉพาะไฟต์กับ วรวุฒิ บ่าววียีน ตอนนั้น แสงมณี อายุเพียง 10 ขวบ แต่ได้ต่อยเดิมพันเงิน 1.2 ล้าน ถือเป็นไฟต์ของสุดยอดไอ้แอ็ดจากภาคอีสาน ประชัน ภาคใต้ และมีอีกหลายไฟต์ที่มีการเดิมพันกับนักมวยรายอื่นๆ ทั้งหลักแสนจนถึงหลักล้าน จนมีฉายา จอมล่าเดิมพัน ตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงไปสะดุดโปรโมเตอร์เมืองกรุง พลตำรวจตรี ดร. เสวก ปิ่นสินชัย ก่อนเดินทางมาโด่งดังในรายการ “ศึกอัศวินดำ” ในการเป็นแชมป์มวยรอบ ทารกเงินล้าน
จำได้ว่าไฟต์ที่ทุกคนต่างพูดถึงคือการแลกแข้งกับ พันพยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ ที่เวลาต่อมากลายเป็น ยอดมวย 3 พ.ศ. ในการชิงแชมป์ 26 กก. เวทีมวยอัศวินดำ สมัยนั้น แสงมณี ถือเป็นมวยเด็กที่โด่งดังที่สุดในยุค 10 กว่าปีก่อนเลยก็ว่าได้
– คว้าตำแหน่งยอดมวย ปี 2555 ร่วมกับ ยอดวิชา
หลังจากเข้ากรุงได้ไม่นาน แสงมณี ต้องเจอกับมรสุม เมื่อมีแฟนมวยกลุ่มขาใหญ่ แบนไม่ให้ แสงมณี ขึ้นชกในเมืองกรุง เนื่องจากไฟต์นั้นเเกิดขึ้นที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อย กับ บรรจงศักดิ์ ลูกเจ้าพ่อหลวงวัง 3 ไฟต์แรกที่ทั้งคู่เจอกัน แสมณี พ่ายเรียบ ก่อนจะมาแก้มือได้แบบเจ็บแสบที่อ้อมน้อย โดยไฟต์นั้น แสงมณี โดนกล่าวหาว่าชกดึงราคา เลยโดนเซียนมวยแบนไปในที่สุด
หายจากเมืองกรุงไป 3 ปี คราวนี้กลับมาแบบพายุทอร์นาโด้ ภายใต้สีเสื้อ ส.เทียนโพธิ์ และการจัดการของโปรโมเตอร์ “มือทองสมองเพชร” ทรงชัย รุตนสุบรรณ พา แสงมณี ผงาดแชมป์ 4 เดือน 4 รุ่น 4 เส้น (แชมป์ 105 ลุมพินี ,แชมป์ 108, 112 ,115 ราชดำเนิน )
จนเถลิงคว้ายอดมวยถ้วยพระราชทานคู่กับ ยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์ ด้วยวัยแค่ 14 ปี
– ชกมวยสากลสมัครเล่นในนามทีมชาติไทย
วงการมวยสากลสมัครเล่นไทย ถึงคราวผลัดใบ หลังจากชื่นชมความสำเร็จของ สมรักษ์,มนัส และ สมจิตร ทางนายกสมาคม ณ เวลานั้นได้แก่ “บิ๊กบางจาก” นายพิชัย ชุณหวชิร ต้องการให้ยุคสมัยของตน มีเหรีญญทองโอลิมปิคให้แฟนมวยได้สัมผัสอีกครั้ง จึงมีการนำเอายอดมวยอย่าง แสงมณี ที่มีครบทุกด้าน ทั้งสายตา ความเร็ว ความหนัก และโหงเฮ้ง โดยมีเงินค่าเสน่หาเป็นจำนวน 1 ล้าน เพื่อมัดใจทารกเงินล้าน
แต่ทว่าหนทางไม่ได้โรยด้วยกีบกุหลาบ แสงมณี ฟิตซ้อมและทำการแข่งขันรวมในแคมป์ทีมชาติอยู่เพียง 5 เดือนก็ต้องขอออกมา สลับกับทาง แสงมณี และคุณพ่อ ได้ขอออกมาซ้อมเองที่ค่ายมวยภพธีรธรรม ของ “พีมาด” สามารถ พยัคฆ์อรุณ โดยมีการดูแลค่าใช้จ่ายเอง ทว่า ในรายการมวยสากลสมัครเล่นชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2014 แสงมณี ตกรอบ 8 คนสุดท้าย จึงยุติบทบาทในนามมวยเสื้อกล้ามทีมชาติไปโดยปริยาย
– ย้ายสีเสื้อสะเทือนวงการ “บุญคุณ หรือ ….”
ต่อมาไม่นาน แสงมณี กลับไปโชว์ผลงานบนสังเวียนมวยไทยอีกครั้ง ซึ่งการกลับมาภาคนี้ แสงมณี ผลงานยังติดปีกเหมือนเดิม ทว่ากับการเซ็นสัญญาใช้สีเสื้อ “ส.เทียนโพธิ์” ถึงคราวต้องยุติ
เมื่อมีการระบุในสัญญาว่า แสงมณี จะใช้สีเสื้อ ส.เทียนโพธิ์ 3 ปี แต่ มีการใช้สีเสื้อเลยไปเป็นปีที่ 4 ทางครอบครัวของ แสงมณี จึงไปทำเรื่องเพื่อขอออก ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารย์ของคนมวยอย่างเป็นวงกว้าง แต่สุดท้าย แสงมณี ก็ได้ออกมาเป็นนักชกอิสระในที่สุด
โดยผลงานช่วงที่ แสงมณี ใช้สีเสื้อ ส.เทียนโพธิ์ ก็มีไฟต์ที่อยู่ในความทรงจำหลายไฟต์ ทั้งการต่อย เมืองไทย จนโดนจับแพ้ การแลกเดือดกับ “แรมโบ้เลือดเดือด” ธนญชัย หรือแม้กระทั้งการถล่ม “คนไม่ยอมคน” เสกสรร ยับเยิน แต่ที่ แสงมณี ก้าวไม่พ้น คือความพ่ายแพ้ต่อ ทักษิณเล็ก ถึง 2 ครั้ง 2 ครา
– โกอินเตอร์ภายใต้สีเสื้อ “อุ้มกะต๋องเชียงใหม่ยิม”
สรุปสุดท้ายเรื่องการย้ายสีเสื้อก็มาลงเอยที่ เจ้อุ้ม กับ โกต๋อง ในนาม “แสงมณี อุ้มกะต๋องเชียงใหม่ยิม” พร้อมด้วยในสภาวะที่ในประเทศไทยเริ่มตันคู่ ต่อยกับ ธนญชัย 9 ครั้ง จนเริ่มเบื่อ จึงมีการขยับขยายให้ แสงมณี ได้โกอินเตอร์
โดยก่อนหน้านี้ แสงมณี เคยเดินทางไปชกต่างประเทศครั้งแรกในวัย 16 ปี ที่ประเทศฮ่องกง ในรายการ ท็อปคิง เวิลด์ ซีรี่ย์ แต่ทว่าหลังจากผะสีเสื้อ “อุ้มกะต๋องเชียงใหม่ยิม” ก็ได้ลุยจีนยาวๆ โกยเงินหยวน เข้ากระเป๋าอยู่หลายปี จนชื่อเสียงเริ่มโด่งดังในระดับโลก
– เรียนจบปริญญาโท และได้ชื่อว่าเป็นนักมวยที่ประสบความสำเร็จสุงสุด
แสงมณี เป็นนักชกที่คิดถึงอนาคตของตัวเองเสมอ หลังจากที่โกอินเตอร์ ได้ระยะใหญ่ เขาก็ใช้เวลาช่วงเว้นว่างจากการซ้อม ไปศึกษาหาความรู้จนไปถึงระดับปริญญาโท ม.เกษมบัณฑิต
ได้เข้าไปโชว์ฝีมือในรายการ ONE Championship ก็มีไฟต์ที่ผลงานงานที่ดีและไม่ดีบ้างปะปนกันไป เนื่องจากการกรำศึกหนักมาอย่างยาวนาน ทั้งนอกและในสังเวียน จนมีทุกอย่างที่ควรมี แน่นอนในเรื่องของแรงจูงใจก็ลดน้อยถอยลงไปเป็นเรื่องธรรมดา จนมาโดน ฟาบิโอ เรยิส ไอ้หนุ่มหมัดหนักจากแดนฝอยทอง กดน็อกหมดรูป สาเหตุก็มาจากการที่ต้องปีนน้ำหนักขึ้นไปชกรุ่น 145 ปอนด์ ด้วย จึงตัดสินใจพักร่างกาย ไปเป็นครูมวยที่สิงคโปร์
นี่คือเรื่องราวคร่าวๆของ แสงมณี ที่น่าจะอยู่ในความทรงจำของแฟนมวย จะเห็นได้ชัดว่า แสงมณี ผ่านอะไรมาเยอะมาก และผลงานการชกในปัจจุบัน ก็คงจะเป็นแค่อุปสรรคอีกด่าน ที่ ทารกเงินล้าน ต้องผ่านมันไปให้ได้เหมือนครั้งที่ผ่านๆมา
แล้วคุณหล่ะ มีความทรงจำอะไรบ้างกับ ยอดมวยจากขอนแก่นรายนี้บ้าง คอมเม้นท์มาพูดคุยกับเราได้เลย
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com
