คาใจทั้งประเทศ! เจาะประเด็นคู่ บอล อัศนัย แพ้เอกฉันท์ เต้ นันทศัย
จบลงไปอีกคู่สำหรับศึกมวยดารา 10 Fight 10 ซีซั่นสอง ระหว่าง บอล อัศนัย จากทีม Black กับ เต้ นันทศัย จากทีม White ผลการชกครบสามยกปรากฏว่า เต้ นันทศัย เป็นฝ่ายชนะคะแนนไปอย่างเอกฉันท์ ทั้ง 3 เสียง อย่าง 29-28, 29-28 และ 29-27 คะแนน
หากผลการตัดสิน สอดคล้องกับรูปเกมบนเวที ดราม่าจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ แต่ทว่าหลังประกาศผู้ชนะ ดีกรีความดราม่ากลับดุเดือดมากกว่าทุกไฟต์
เพราะผู้ชมแทบทั้งประเทศ ต่างเห็นตรงกันข้ามกับมุมมองของกรรมการผู้ให้คะแนนทั้งสามท่าน ประกอบด้วย อ.พินิจ ประหยัดทรัพย์ ผู้ตัดสินจาก WBA, .ดร.ยงศักดิ์ ณ สงขลา ผู้ตัดสินจาก IBF และ.ร.ต.ต.เกริกไกร เกลาเกลี้ยง ผู้ตัดสินจาก WBC
ก่อนอื่นผู้เขียนต้องออกตัวก่อนว่า ไม่ได้เชียร์ บอล อัศนัย หรือ เต้ นันทศัย เป็นการพิเศษ ดูด้วยความบันเทิง และมองอย่างเป็นกลาง แต่ก็แอบรู้สึกประหลาดใจตั้งแต่ประกบคู่แล้ว เนื่องจากมองด้วยสายตา บอล อัศนัย กับ เต้ นันทศัย น้ำหนักไม่ได้กัน เพราะรูปร่างคนละไซส์เลย
อย่างที่เห็นชัดในวันชั่งน้ำหนัก บอล อัศนัย ปล่อยน้ำหนักมาได้มากสุดแค่ 68.35 กิโลกรัม (150 ปอนด์) ขณะที่ เต้ นันทศัย ลดมาได้เหลือ 71.65 กิโลกรัม (157 ปอนด์) โดยเวตน้ำหนักที่ตกลงชกอยู่ที่ไม่เกิน 72.6 กิโลกรัม (160 ปอนด์)
เท่ากับว่าก่อนชก บอล อัศนัย แบกน้ำหนักมากถึง 7 ปอนด์ แม้ว่าตามประวัติ บอล อัศนัย จะซ้อมมวยนานกว่า เต้ แต่อย่างที่เห็นบนเวทีว่า แรงปะทะของทั้งคู่ต่างกันลิบลับ เหมือนเอามวยคนละเวตมาเจอกัน
ส่วนเกณฑ์การให้คะแนนของรายการ 10 Fight 10 ตามที่ผู้เขียนได้หาข้อมูลมา ยึดตามกติกามวยสากลสมัครเล่น คือ ตัดสินตามอาวุธใครชัดเจน เข้าเป้า ได้น้ำได้เนื้อมากกว่ากัน (ไม่ได้ดูตามอาการมวย หรือทรงมวย เมื่อครบ 3 ยก) ใช้สันหมัดเป็นส่วนปะทะ ไม่นับลูกเขวี้ยงหมัด
โดยแต่ละยก ผู้ชนะจะได้รับ 10 คะแนน ส่วนผู้แพ้ก็จะได้ 9 คะแนนยืนพื้น หรือน้อยกว่านั้นตามสถานการณ์ เช่น โดนไล่ยำใหญ่, โดนต่อยหล่นนับ-น็อก ก็อาจจะได้ลดหลั่นลงไป
แต่ที่เพิ่มเติมจากกติกามวยสากลทั่วไป คือ ในรายการ 10 Fight10 หากกรรมเกมมองว่ารูปเกมสูสีในยกนั้น กรรมการสามารถให้คะแนนเสมอกัน 10-10 แต้มแก่ทั้งคู่ได้
รูปเกมการชกโดยสรุป ยก 1-2 บอล อัศนัย ชกเข้าเป้าได้จะแจ้งกว่า มีหมัดแย็บสวย ๆ สลับกับหมัดซ้ายยาว ๆ รวมถึงการจังหวะฟุตเวิร์ก ฉากหนีสวยงาม มีลูกโต้คืนตลอด โดยเฉพาะยกสองที่ บอล ชกได้เข้าเป้าเยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่ เต้ สองยกแรก เน้นยกการ์ดสูงป้องกัน พยายามเดินเปิดเกมรุก แต่ก็ยังต่อยไม่ค่อยเข้าเป้านัก วืดวาดเสียเยอะ เพราะบอล อัศนัย พริ้วมาก ซึ่งในมุมมองของผู้เขียน เขาเป็นนักมวยดาราที่ทรงมวยสวยงามสุด ต่อยได้แม่นยำ แหลมคม เท่าที่เคยรายการนี้เคยมีมาก็ว่าได้
ส่วนจังหวะที่ เต้ ทำได้ดี คือ ยามเดินชิดตัว ต้อน บอล ติดเชือกเข้ามุม เต้ มีหมัดชุดตะลุมบอน ซึ่งถ้าเป็นคนอื่น คงต้านทานยาก แต่ บอล อัศนัย ก็โชว์การเวฟหนีได้สวย อย่างในยกที่ 2 เพราะเต้ พยายามเร่ง แต่ไล่ไม่จน ช่วงท้ายเห็นได้ชัดว่า พละกำลังของ เต้ เริ่มมีแผ่วให้เห็น ถ้าตัดสินตามสายตา ยก 1 บอล ต่อยเข้าเป้ามากกว่า ยก 2 บอล ต่อยดีกว่ายกแรกชนะไปแบบขาดลอย
พอขึ้นยก 3 เต้ จึงต้องทุบหม้อข้าว เดินไล่อัดแบบลืมหายใจ ซึ่งตรงชื่มชม เต้ ตรงที่สภาพร่างกายของเขาอึด ทนทาน แม้ต้องเจองานหินอย่าง บอล อัศนัย ที่มีจังหวะฝีมือยอดเยี่ยม ชกเข้าเป้ายาก เพราะเคลื่อนที่ตลอด
โดยเฉพาะช่วงปลายยก 3 เต้ ระดมหมัดชุดใหญ่ จน บอล ออกอาการเมาอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะทั้งคู่เป็นมวยคนละน้ำหนัก การแบก 7 ปอนด์ของ บอล เริ่มส่งผลออกมาให้เห็น
ในยกที่ 3 มีจังหวะนึงที่ บอล โดนหมัดเหวี่ยงของเต้ เสียหลักล้มลงไป จังหวะนั้น ผู้ตัดสินบนเวที วัชรินทร์ รัชนิพนธ์ ตัดสินใจไม่นับ เนื่องจากมองว่า บอล ไม่ได้ล้มไปเพราะพิษจากสันหมัดของ เต้ เดชะบุญที่ไม่กี่วินาทีต่อมา ระฆังช่วยชีวิตไว้เพราะตอนนั้น บอล ออกอาการเป๋แล้ว เจียนอยู่เจียนไปเหมือนกัน
แน่นอนว่าเมื่อ เต้ ไม่สามารถน็อกได้ในยก 3 โอกาสของคู่นี้ หากพิจารณาจากผลงานทั้งสามยก ใครก็ต่างมองว่าคู่นี้มีโอกาสออกได้แค่สองหน้าเท่านั้น คือ บอล ชนะคะแนน หรือให้เสมอกัน เพราะยกสุดท้าย เต้ มาได้ชุดใหญ่ แต่คงไม่มีทางที่ เต้ จะชนะ เนื่องจาก 2 ยกแรก บอล ทำได้ดีกว่าพอสมควร
เมื่อพิธีกรประกาศให้ เต้ ชนะแบบเอกฉันท์ ก็ทำเอาผู้ชมงงไปตาม ๆ กัน เพราะนั่นเท่ากับ กรรมการ ทุกคนเห็นตรงกันว่า เต้ ชนะ 2 ยก และแพ้ 1 ยก เนื่องจากให้คะแนน เต้ เท่ากันหมดคือ 29 คะแนน (10+10+9)
นั่นหมายความว่า มีกรรมการท่านหนึ่งที่ให้ บอล 27 คะแนน 10+9+8) โดยมองว่า บอลแพ้สองยก และมีหนึ่งยก ที่แพ้แบบเหมือนคนเสียนับ! หายไปสองคะแนน
เสียงจากผู้ชมรายการ 10Fight10 จึงส่งไปถึงผู้จัดอีกครั้งให้ทบทวนมาตรฐานการตัดสิน “บอล อัศนัย” แพ้เอกฉันท์ “เต้ นันทศัย” เพราะหากจำกันได้ ก่อนหน้านี้ไม่นานก็เพิ่งมีดราม่าคู่ระหว่าง เชียร์ ฑิฆัมพร กับ หมอเจี๊ยบ ลลนา ที่ให้เสมอกัน ทั้งที่ไม่ว่าจะมองเหลี่ยมไหน เชียร์ ก็สมควรเป็นผู้ชนะ หากตัดสินแบบมวยสากล
ยกเว้นเสียแต่ท่านจะมองแบบมุมการตัดสินแบบมวยไทย ที่ให้คะแนนตามอาการมวย ทรงมวย เมื่อครบยก ถ้ามองเหลี่ยมนั้น ก็เท่ากับว่า เต้ ชนะได้ ด้วยการพลิกราคาแพงชนิด 50-1 กลับมาชนะ เพราะอาการมวยดีกว่า บอล อัศนัย ที่เซถลาก่อนหมดยกสุดท้าย
แต่นี่ไม่ใช่มวยไทย เพราะนี่เป็นการแข่งขันกติกามวยสากล แน่นอนว่าที่ผ่านมา เราเขียนชื่นชม 10Fight10 ที่ปลุกกระแสให้คนที่ไม่ได้ดูมวย หันมาสนใจกีฬาการต่อสู้
แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากมีข้อผิดพลาด สิ่งที่ควรแก้ไข ก็อยากให้รายการนำไปปรับปรุง พัฒนา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับนักมวยทุกฝ่าย เพราะสุดท้ายคงไม่มีใครที่อยากอดทนซ้อมมาหลายเดือน เพื่อจะได้รับชนะด้วยข้อครหา หรือแพ้แบบค้างคาใจกลับบ้าน
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com
