“รูคิยะ-ริคุ” สองพี่น้อง แชมป์โลก K-1 ที่มี “บัวขาว” เป็นไอดอล

ย้อนกลับไปเมื่อ 17 ปีก่อน “บัวขาว ป.ประมุข” (ชื่อเดิม) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และทำให้คนญี่ปุ่นต้องตกตะลึก เมื่อเขากลายเป็น คนไทยคนแรกที่ผงาดคว้าแชมป์โลก มวยรอบ “K-1 World Max” ในปี 2004

   สำหรับศึก K-1 World Max นั่นถือเป็นรายการคิกบอกซิ่งใหญ่ ขององค์กร K-1 ที่รวบรวมเอานักสู้ฝีมือดีจากทั่วโลกมาประลองยุทธ์กัน

   โดยสองปีแรกที่จัด แชมป์ตกเป็นของ อัลเบิร์ต คราอุส นักคิกบอกซิ่งชาวเนเธอร์แลนด์ ที่ชนะ เก้าล้าน เก้าวิชิต ในรอบชิงหนที่หนึ่ง ส่วนครั้งที่สอง ตกเป็นของ มาซาโตะ ซูเปอร์สตาร์นักสู้ขวัญใจชาวญี่ปุ่นที่ได้แชมป์ไปครองใน K-1 World Max 2003

   ก่อนที่ “บัวขาว” จะไปประกาศศักดา โชว์พลังเตะที่อันทรงพลัง การเดินบู๊สุดระห่ำ ผ่านเข้าสู่นัดชิงในปี 2004 ไปเจอกับ มาซาโตะ แชมป์เก่าผู้มีดีกรีเป็นนักคิกบอกซิ่งที่เก่งสุดของญี่ปุ่นยุคนั้น ท่ามกลางกองเชียร์เจ้าถิ่นที่แห่มาเชียร์ มาซาโตะ เต็มความจุ

   ในไฟต์นั้น บัวขาว เล่นงาน มาซาโตะ จนใบหน้ายับเยินเอาชนะคะแนนไปได้แบบเอกฉันท์ ผงาดครองแชมป์ K-1 World Max สมัยแรก (บัวขาว ได้แชมป์รายการนี้ 2 สมัย และรองแชมป์อีก 2 ครั้ง)

   เป็นจุดเริ่มต้นในการมีชื่อเสียงในแผ่นดินญี่ปุ่น ส่วน มาซาโตะ หลังจบเกมนั้นต้องพักรักษาตัวนานหลายเดือนเลย เพราะถูก บัวขาว เล่นงานจนบอบช้ำหนัก

   ชัยชนะในไฟต์นั้นทำให้ เด็กชายสองพี่น้องชาวญี่ปุ่น นามว่า “รูคิยะ-ริคุ อันโปะ” เกิดความประทับใจในตัว บัวขาว เป็นอย่างมาก ถึงขั้นอ้อนวอนให้ผู้ปกครองพาเขามาเจอกับ นักชกขวัญใจถึงเมืองไทย

ก่อนที่ความฝันจะเป็นจริงของ รูคิยะ และ ริคุ เมื่อ 15 ปีก่อน เพราะพ่อกับแม่ของเขา ตัดสินใจพาลูกชาย 2 คนนั่งเครื่องบินจากญี่ปุ่นมาหา ไอดอลที่เขาชื่นชอบ

ซึ่งบัวขาว พอทราบเรื่องก็ยินดีต้อนรับ 2 ไอ้หนูชาวญี่ปุ่น โดยมีการถ่ายรูป เด็กน้อยสองคนโหนกล้าม บัวขาว ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข

ใครจะไปคิดว่าหลังจากวันนั้น สองพี่น้องตระกูล อันโปะ จะเติบโตและเดินตามรอยของ บัวขาว ต่างฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง จนกลายมาเป็น นักชกอาชีพในศึก K-1 พร้อมกับไล่ล่าความสำเร็จคว้าเข็มขัดมาคาดเอวได้ทั้งคู่

โดยคนพี่ รูคิยะ อันโปะ ในเวลาต่อมาก็สามารถผงาดก้าวไปถึง เข็มขัดแชมป์โลก K-1 World Grand Prix 2 เส้น ส่วนคนน้อง ริคุ อันโปะ ก็ไม่ธรรมดาได้แชมป์โลก K-1 Krush มาครองเหมือนกัน