ออกมาตรการห้ามจัดการแข่งขัน สองมาตรฐาน ?
ยังคงยืนยันคำเดิมว่า ไม่มีนักกีฬาอาชีพในประเภทไหนในไทย ที่เจ็บปวด น่าเห็นใจ และถูกมองข้ามมากเท่ากับ “นักมวยไทย”
ทั้งที่พวกเขาคือลูกหลานผู้สืบสานศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย แต่กำลังถูกปล่อยให้ค่อย ๆ ตายอย่างช้า ๆ ทั้งระบบ
นักมวยไทย ต้องใช้หงาดเหงื่อ ร่างกาย เอาความเจ็บปวดแลกเงิน กว่าจะมีค่าตัวเรือนหมื่น บางคนต้องผ่านการฝึกฝนนานนับสิบปี ยี่สิบปี
หลายคนต้องผ่านการขึ้นสังเวียนมาหลายสิบ หลายร้อยไฟต์ กว่าจะมีชื่อเสียง และ กว่าจะใช้วิชามวยไทยเลี้ยงชีพได้
น่าเศร้าใจที่ อาชีพนักมวยไทย กลับไม่เคยถูกให้ความสำคัญจากผู้หลักผู้ใหญ่ และผู้มีอำนาจเกี่ยวข้อง หลายท่านยังมองไม่เห็นความคุณค่า และไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงควรอนุญาตให้ มวยสามารถจัดระบบปิดได้
เหมือนดั่งล่าสุดในกรณีของ ศึกเพชรยินดี และศึกมวยมันส์วันศุกร์ ที่ถูกฟ้าผ่าในช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา ก่อนวันจัดแค่วันเดียว
เนื่องจากผู้ว่าจังหวัดปทุมธานี ไม่อนุญาตให้จัดแข่งขัน ทั้งที่ โปรโมเตอร์พร้อมปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งของ ศบค. ด้วยการควบคุมให้มีนักมวย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องภายในสนามไม่เกิน 20 คน
โปรโมเตอร์ยอมขาดทุน เพื่อให้มวยจัดได้ ค่ายมวยก็ฟิตซ้อมนักมวยแรมเดือน นักชกก็ทำร่างกายมาพร้อมแล้ว แต่สุดท้ายต้องมาฝันสลาย เพียงเพราะคำสั่งห้ามจัดมวยที่ออกมาแบบกระชั้นชิด จนไม่สามารถขยับขยาย หาสถานที่ใหม่ได้ทัน ตามมาตรฐานการถ่ายทอดสดที่ เพชรยินดี ต้องการ
รายการมวยในสัปดาห์ทั้ง 2 วันของ เพชรยินดี จึงต้องยกเลิกไปแบบไร้การเยียวยา แต่ในพื้นที่จังหวัดเดียวกัน ทางจังหวัด กลับยินยอมให้มีการแข่งขัน ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ซึ่งแต่ละนัด มีผู้เกี่ยวข้องอยู่ในสนามไม่ต่ำกว่า 60-70 คน เผลอๆ ทั้งนักกีฬา, เจ้าหน้าที่, ช่างภาพ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงอีกว่า ในสนามนั้นมีชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาแข่งขันด้วย
ขณะที่ มวยไทย ขอแค่จัดระบบปิด จำกัดคนเข้าสนามไม่เกิน 20 คน กลับถูกปัดทิ้งอย่างไร้เยื่อใย จนถึงตอนนี้ผ่านมา 6 เดือนแล้ว นักมวยไทย เดือดร้อนไม่มีรายการชกกันมานานถึง 5 เดือน แล้วแบบนี้จะไม่ให้แฟนมวยตั้งข้อสังเกตถึงความ สองมาตรฐาน ได้อย่างไร ?
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com
