“สามารถ ปะทะ ดีเซลน้อย” สุดยอดคู่มวยไทยดีที่สุดตลอดกาล

“สามารถ ปะทะ ดีเซลน้อย” สุดยอดคู่มวยไทยดีที่สุดตลอดกาล


    ในประวัติศาสตร์ของวงการมวยไทย ยังไม่เคยมีไฟต์ไหนที่ยิ่งใหญ่ ได้รับการยกย่องให้เป็นคู่มวยไทยที่ดีสุดในประวัติศาสตร์

    เท่ากับการเจอกันระหว่าง สองตำนานนักมวยไทยดีที่สุดตลอดกาล อย่าง สามารถ พยัคฆ์อรุณ สุดยอดด้านมวยฝีมือ กับ ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์ สุดยอดด้านมวยเข่า 

    สามารถ กับ ดีเซลน้อย มีอายุไล่เลี่ยกันห่างกันแค่ปีเดียว ทั้งคู่ต่างเป็น มวยเอก ในช่วงยุคทองของ วงการมวยไทย  เมื่อเกือบ 40 ปีก่อน โดย สามารถ และ ดีเซลน้อย ได้รับการยอมรับว่า เป็นนักมวยที่เก่งกาจที่สุด ไร้ตัวสู้ ในเวตน้ำหนักของตัวเอง รวมถึง หากพูดถึง ปรมาจารย์มวยฝีมือ สามารถ คือเบอร์ 1 ตลอดกาล ส่วนมวยเข่า หมายเลข 1 ของวงการ แน่นอนต้องเป็น ดีเซลน้อย 

    สามารถ มีดีกรีเป็นแชมป์ 4 รุ่น 105, 115, 122, 126 ปอนด์ ส่วน ดีเซลน้อย เป็นแชมป์รุ่น 130, 135 ปอนด์ มันคงเป็นไปได้หากที่จะได้เห็น คู่มวยหยุดโลกคู่นี เพราะรูปร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก ของ สามารถ กับ ดีเซลน้อย ต่างกันลิบลับ แถมทั้งคู่ก็รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี คบหาเป็นเพื่อนรักร่วมอาชีพ 

    ความเก่งกาจเกินของทั้งคู่ ทำให้ต่างฝ่ายเริ่มตัวสู้ได้ยาก โดยเฉพาะ ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์ ที่หาตัวประกบสู้ไม่ได้เลยเป็นปี ส่วน สามารถ ก็หาตัวจับยากเหลือเกินในเชิงมวยไทย จนต้องเริ่ม เบนเข็มไป ชกมวยสากลอาชีพ ควบคู่ไปด้วย

    ทว่า คู่มวยไทยในฝันที่แฟนมวยเรียกร้องกันมามาก เพื่อหาว่าใครคือเบอร์ 1 ตัวจริง ที่ดูท่าไม่น่าเกิดขึ้นได้ ก็กลายเป็นความจริง เมื่อมีการประกบ สามารถ – ดีเซลน้อย มาชกกันได้จริงๆ ภายใต้การจัดโดย "เฮียแคล้ว ธนิกุล" ผู้ล่วงลับ 


    ครั้งแรกที่มีการทาบทามกัน คือ ช่วงกลางปี 2524 ตกลงกันว่า สามารถ พยัคฆ์อรุณ จะทำน้ำหนักขึ้นมา 128 ปอนด์ ส่วน ดีเซลน้อย จะลดลงไปต่อย 130 ปอนด์ ทว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงฝึกซ้อม ดีเซลน้อย มีปัญหาอย่างมากในการลดน้ำหนัก ถึงขั้นเป็นลมจับไข้ ทำให้ต้องเลื่อนการชกไฟต์หยุดโลกนี้ออกไปก่อน 

    ในปีต่อมา ผู้ใหญ่ในวงการต่างรวมมันสมอง สรรพกำลัง ร่วมมือกัน จัดมวยนัดพิเศษ โดยเสด็จพระราชกุศล ที่เว้นว่างมาร่วม 3 ปี หลังจากครั้งสุดท้าย เฮียแคล้ว ธนิกุล จัดขึ้นที่เวทีราชดำเนิน 

    ครั้งนี้เป็นคิวของ เวทีมวยลุมพินี แต่เนื่องด้วยสภาพสถานที่ไม่ค่อยพร้อม สำหรับต้อนรับ พระราชวงศ์ชั้นสูง จึงโยกไปจัดที่ เวทีมวยราชดำเนิน ที่ยินดีให้ ลุมพินี รับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ทุกฝ่ายต่างพยายามผลักดันให้ สามารถ กับ ดีเซลน้อย ได้มาสู้กันบนเวที

    ในครั้งนี้ ตกลงชกกันที่น้ำหนัก 132 ปอนด์ สามารถทำน้ำหนักขึ้นไป ส่วน ดีเซลน้อย ลดลงมา มีเรื่องหนึ่งที่ ดีเซลน้อย เปิดเผยด้วยตัวเอง คือ 1 วันก่อนชก เขามีน้ำหนักเกินอยู่ถึง 8 ปอนด์ จึงเริ่มกระโดดเชือกตั้งแต่ 7 โมงถึง 11 โมงเช้า พอไปชั่งน้ำหนักยังเกินอยู่ 3 ปอนด์ 

    จากนั้นก็ใส่เสื้อ 5 ตัว กางเกง 3 ตัว เพื่อรีดเหงื่อ โดยกินเพียงแค่ น้ำมะนาวจิ้มเกลือ เวลาประมาณบ่าย 2 โมงไปชั่งอีกครั้งก็ยังเกินอยู่ 2 ปอนด์ จึงต้องเข้าสู่กระบวนการนั่งพิงหม้อต้มน้ำร้อน ให้เหงื่อออกมากที่สุด ก็ยังเกินอยู่ ปอนด์กว่าๆ 

    ก็เลยตัดสินใจกินยานอนหลับให้ตัวเองได้พักผ่อนเพียงพอ พร้อมสำหรับการชกวันพรุ่งนี้ เมื่อถึงวันชก ในช่วงเช้าเขาต้องไปชั่งน้ำหนัก สามารถ มาสอบเกิน 1 ปอนด์ พอถึงคิวของ ดีเซลน้อย ปรากฏว่า เขามาสอบด้วยน้ำหนัก 129.5 ปอนด์ สร้างความตกใจให้แฟนหมัดมวยทีแห่กันมาดูกันชั่งน้ำหนัก กันมากมาย 

    การชกในวันนั้น สามารถ ปะทะ ดีเซลน้อย จัดขึ้นในศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2525 ณ เวทีราชดำเนิน ได้รับความสนใจจากแฟนมวยล้นหลาม ทั้งที่ราคาค่าตั๋วสูงถึง 300-600 และ 1,200 บาท (ค่าเงินเมื่อ 38 ปีที่แล้ว) แต่เก็บค่าเข้าชมได้ถึง 3,120,600 บาท 

    ในยกแรก สามารถ ใช้ความคล่องตัว ฉีกออกซ้ายทีขวาที สลัดหนีการประกบ ถีบทำลายจังหวะ ใช้ลูกเตะเจาะยาง ดีเซลน้อย ส่วน ดีเซลน้อย ก็พยายามเข้าไปกอดรัดตี และเตะขา ต่อยหมัด ตามสไตล์ แต่อาวุธของ ดีเซลน้อย วืดวาดไปหลายครั้ง  

    ยกสอง ดีเซลน้อยเดินบีบเร็วขึ้น ไม่มีช่องไฟให้สามารถได้หายใจ ทำให้คว้าคอ สามารถ มาตีหลายครั้งและแทงเข่ากินเปล่า แบบไม่ต้องจับ  บรรยากาศวันนั้น ทุกครั้งที่ดีเซลน้อยเสียงเชียร์มาเต็ม ส่วน สามารถ พยายามดิ้นหนีการจับล็อกตี แต่ก็ทำอะไรได้ไม่ถนัด เพราะรูปร่างดีเซลน้อยใหญ่กว่ามาก 

    พอขึ้นยกสาม ช่วงต้น สามารถ แก้เกมมาใช้หมัดได้ดีในระดับหนึ่ง แต่พอปรับใช้หมัดเยอะ ดีเซลน้อย ก็หาจังหวะแทงเข่ากินเปล่า จับตีเข่าได้หลายหน เข่าของดีเซลน้อย นั้นมีความรุนแรง ยกเสียบได้ค่อนข้างสูง มีบางจังหวะที่เขายกเข่าตี สามารถ ขึ้นมาสูงถึงระดับหน้าอก ไหล่ และปลายคางของคู่ชกเลยทีเดียว 

    ยกที่สี่ สามารถ ที่รับอาวุธเข่ามาเยอะตลอด 3 ยก ดูอ่อนแรงลงไปมาก กลายเป็นฝ่าย ดีเซลน้อย เดินหน้าไล่แทง จ้วงเข่าข้างเดียว ส่วน สามารถ เขาทำได้ดีที่สุดคือพยายามปัดป้องอาวุธ แทบไม่มีจังหวะได้โต้เนื้อๆ เน้นๆ 

    ยก 5 สามารถพยายามฮึดอีกเฮือก งัดทุกอย่างที่มี แต่ก็เร่งไม่ขึ้น สภาพอ่อนแรงลงไปอย่างชัดเจน สถานการณ์ราคาต่อรองไปไกลมากถึง 40-1 จบการแข่งขันด้วยความปราชัยของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ และชัยชนะของ ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์

    สามารถ ยอมรับความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น ส่วน ดีเซลน้อย ก็ยกย่องความอัจฉริยะ ความเป็นสุดยอดนักชกของ สามารถ พร้อมกับเล่าว่า หลังจบการแข่งขัน ตนเองที่เป็นผู้ชนะชนะมีอาการเจ็บขา ส่วน สามารถผู้แพ้ กลับเดินป๋อ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

    นี่คือไฟต์ประวัติศาสตร์ของวงการมวยไทยอย่างแท้จริง ในการพบกันของ สองสุดยอดนักมวยไทยที่ดีสุดตลอดกาล อย่าง สามารถ พยัคฆ์อรุณ กับ ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์ ที่ไม่มีใครคู่ไหนเสมอเหมือน

 


ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com