“สุดาพร สีสอนดี” เหรียญทองแดงที่แลกมาด้วยความพยายาม
สิ้นสุดเส้นทางไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับภารกิจขุนพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทย ในโอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่ส่งเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 5 คน และคว้ามาได้ 1 เหรียญทองแดงจาก สุดาพร สีสอนดี นักมวยหญิงที่นาทีนี้ คงไม่มีคนไทยคนไหน ไม่รู้จักเธออีกแล้ว
สุดาพร ไต่เต้าจากนักมวยที่มีแรงกิ้งต่ำกว่า 30 ในศึกชิงแชมป์โลก ปี 2016 เฝ้าเพียรอดทนพยายาม ฝึกซ้อม ลงสนามต่อสู้
จนในปี 2018 เธอสามารถก้าวไปถึงตำแหน่ง รองแชมป์โลก ได้สำเร็จ แม้จะพ่ายแพ้ต่อ เคลลี่ แฮร์ริงตัน นักชกมือวางอันดับ 1 ชาวไอร์แลนด์ แต่เธอไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง
3 ปีต่อมา สุดาพร ในวัยใกล้ 30 ปี มีโอกาสได้ตั๋วมาลุยโอลิมปิก เกมส์ 2020 ครั้งนี้ก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้น สื่อมวลชนไม่ได้จับตามองเธอมากนัก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีนักมวยหญิงไทยไปได้ถึงขั้นคว้าเหรียญโอลิมปิกกลับมา จึงไม่ค่อยถูกตั้งความหวังมาก
แต่เพียงแค่ไฟต์แรกในรอบ 32 คนสุดท้าย สุดาพร ก็แสดงให้เห็นถึงฝีมือที่พัฒนาไปมาก ชกได้แม่นยำ ออกหมัดซ้ายที่จะแจ้ง ทรงชกสวยงาม เทคนิคดี ต่อยได้มีคุณภาพมาก ไล่ต้อน มาเรีย เอสปิโนซา นักมวยหญิงชาวเอลวาดอร์ ไปได้แบบขาดลอย 5-0 เสียง
|
|
อย่างไรก็ตาม สุดาพร ผ่านรอบแรกไปได้ ก็ต้องพบศึกหนัก ตั้งแต่รอบ 16 คนสุดท้าย “เจ้าแต้ว” ที่ไม่ได้ถูกจัดอันดับเป็นมือวางของรายการ ต้องมาตัด สิมราญจิต บาอาตห์ นักมวยอินเดีย มือวางอันดับ 4 ของราย อีกหนึ่งตัวเต็งที่มีลุ้นเหรียญ
แต่กลายเป็นว่า ตัวเต็งมือ 4 โดน สุดาพร สอนมวยเอาชนะไปแบบขาดลอย ไร้ทางสู้ กรรมการลงคะแนนเป็นเอกฉันท์ให้ สุดาพร สีสอนดี ชนะไปได้ 5-0 เสียง
ชัยชนะในไฟต์นั้นทำให้ สุดาพร เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้น ก่อนมาดังระเบิดไปทั่วบ้านทั่วเมือง ในแมตช์ต่อมา รอบ 8 คนสุดท้าย แมตช์ชิงเหรียญทองแดง ระหว่าง สุดาพร สีสอนดี กับ แคโรไลน์ ดูบอยส์ นักมวยดาวรุ่งฟอร์มที่ปราบเต็งมือวางอันดับ 2 จากสหรัฐอเมริกา มาได้
คู่ชกของ สุดาพร เตรียมมาดี ชั้นเชิงฝีมือมวยไม่เป็นรองเลย แต่ สุดาพร อาศัยความเก๋า และชกด้วยฟอร์มยอดเยี่ยม เบียดคว้าชัยไปได้อย่างสนุกในช่วงท้าย กรรมการให้ชนะ 3-2 เสียง การันตีเหรียญรางวัลโอลิมปิก ติดมือ และสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักมวยหญิงคนแรกของไทย ที่ทำสำเร็จ
น่าเสียดายที่อีกแค่ก้าวเดียว สุดาพร จะมีโอกาสเข้าไปลุ้นเหรียญทองแล้ว แต่สุดท้ายกรรมการเลือกที่ชูมือให้ เคลลี่ แฮร์ริงตัน คู่ปรับเก่าของเธอเป็นฝ่ายชนะแบบไปไม่เอกฉันท์ 3-2 เสียง
ทั้งที่ไฟต์นี้มองด้วยสายตาแล้ว สุดาพร ขยันออกหมัดและต่อยเข้าเป้ามากกว่า สามารถชูให้เราชนะได้เฉย เพราะยกสุดท้ายชัดเจนมากว่าเราทำได้ดีกว่า แต่คู่ชกก็อาศัยทรงมวย ภาษี ความใหญ่ และใช้หมัดหน้าคอยสร้างปัญหา ได้ตลอด
ดังนั้นไม่มีอะไรต้องเสียใจเลย เพราะสุดาพร ถึงแม้จะแพ้ แต่คนไทยทุกคนเห็นแล้วว่าเธอพยายามมากแค่ไหน ?
เธอชกด้วยฟอร์มที่ดีสุด เท่าที่จะทำได้แล้ว และทุกคนพร้อมที่จะต้อนรับ เป็นกำลังใจ และยกย่อง สุดาพร สีสอน ในฐานะฮีโรมวยสากลคนใหม่ของชาติไทย ที่ควรชื่นชมและปรบมือให้ดัง ๆ
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com
