“เนตรน้อย” แชมป์โลก ชาวไทยอายุน้อยสุด ที่จบชีวิตด้วยวัย 23 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 40 กว่าปีก่อน ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2521 ที่เวทีมวยชั่วคราว สนามกีฬากองทัพบก คนไทยทั้งประเทศต่างมีความสุขกันถ้วนหน้า
เมื่อเจ้าเสือเตี้ย “เนตรน้อย ส.วรสิงห์” นักชกที่มีส่วนสูงเพียงแค่ 149 เซนติเมตร ผงาดขึ้นสู่บัลลังก์แชมเปียนโลกชาวไทยคนที่ 6 (สถาบันหลัก) หลังเอาชนะเจ้าของเข็มขัดอย่าง เฟรดี้ กัสติโย คว้าแชมป์โลกรุ่น ไลท์ฟลายเวต WBC (สภามวยโลก) มาครอง
แต่เพียงแค่ 4 ปี หลังจากวันที่ชีวิตขึ้นไปสู่จุดสูงสุด “เนตรน้อย” ก็ต้องพบกับจุดจบของชีวิต ด้วยวัยเพียง 23 ปี 7 เดือน ทิ้งไว้เพียงแค่สถิติที่ยากจะทำลาย
เนตรน้อย มีชื่อจริงว่า เนตร ลาดนอก เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2502 เป็นคนอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ในช่วงวัยหนุ่มเขาเริ่มต้นหากินด้วยการชกมวยไทย แต่เนื่องจากเป็นคนตัวเล็ก จึงค่อนข้างเสียเปรียบคู่ชก พอย้ายไปอยู่ในการดูแลของ ธรรมนูญ วรสิงห์ จึงปรับสไตล์มาชกมวยสากล
เส้นทางกว่าจะเป็นแชมป์โลกไม่ง่าย เนตรน้อย เริ่มไต่เต้าจากการทำฟอร์มชกในประเทศ จนได้ชิงแชมป์มวยสากลอาชีพเวทีราชดำเนิน, ชิงแชมป์ OPBF และชิงแชมป์โลกกับ หลุยส์ เอสตาบ้า แต่เจ้าตัวกลับไม่เคยสมหวังเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หลังแพ้ หลุยส์ เอสตาบ้า แบบค้านสายตา “เนตรน้อย” กลับมาทำฟอร์มต่อชกอุ่นเครื่องและเอาชนะได้อย่างต่อเนื่อง จึงได้รับการผลักดันให้ชิงแชมป์โลก รุ่นไลท์ฟลายเวต WBC กับ เฟรดี้ คาสตินโญ เจ้าของตำแหน่ง
ซึ่งเนตรน้อยก็ทำสำเร็จ กลายเป็นแชมป์โลกชาวไทย ที่อายุน้อยสุด ด้วยวัยเพียง 19 ปี 14 วัน อันเป็นสถิติที่ยังไม่มีใครทำลายได้จวบจนทุกวันนี้ (แสตมป์ กระทิงแดงยิม เคยเกือบทำได้ เพราะเป็นแชมป์โลกเฉพาะกาลตอนอายุ 17 ปี แต่เมื่อชิงเข็มจัดจริงก็แพ้ต่อ คาซูโตะ อิโอกะ)
แต่ช่วงเวลาที่ได้เก็บเกี่ยวเงินทองจากการเป็นแชมป์โลกของ เนตรน้อย ช่างแสนสั้นเหลือเกิน แถมยังถูกผู้จัดการร่วม มาแบ่งค่าตัวไปด้วยอีก โดย เนตรน้อย สามารถป้องกันตำแหน่งได้เพียง 1 ครั้ง ก็ไปเสียแชมป์ที่เกาหลีใต้
จากนั้น เนตรน้อย พยายามถึง 3 ปี กว่าจะมีโอกาสได้ชกชิงแชมป์เข็มขัดแชมป์โลก WBC อีกครั้ง คราวนี้จัดที่บ้านเกิด จังหวัดนครราชสมีมา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524 น่าเสียดาย เนตรน้อย ไปไม่ถึงฝั่งฝัน แพ้ TKO ยก 10 ต่อ อิลาริโอ ซาปาตา
แม้พลาดโอกาสเป็นแชมป์โลก แต่ เนตรน้อย ก็ยังเป็นนักมวยที่เนื้อหอม เพราะโปรโมเตอร์ชาวไทย ต่างอยากทาบทามให้เขาไปเป็นคู่ชกอุ่นเครื่อง เพื่อวัดชั้น ในช่วงขาลง
โดยไฟต์สุดท้ายของชีวิต เนตรน้อย เป็นการเจอกับ สามารถ พยัคฆ์อรุณ ที่เพิ่งชกมวยสากลอาชีพครั้งแรก แม้ว่าไฟต์นั้น เนตรน้อย จะมีสภาพค่อนข้างปล่อยตัว อ้วนท้วน พุงหลามออกมา แต่เขายังชกได้สมราคาที่เคยเป็นแชมป์โลก สำหรับผลการชก สามารถ เอาชนะคะแนนไปได้ ท่ามกลางเสียงโห่ฮาของแฟนมวยที่ไม่พอใจคำตัดสิน
4 เดือนต่อมาหลังการชกกับ สามารถ พยัคฆ์อรุณ วงการมวยสากลไทยต้องสูญเสีย “เนตรน้อย” แชมป์โลก ไปด้วยวัยเพียง 23 ปี 7 เดือน จากอุบัติเหตุขับมอเตอร์ไซด์ ชนเสาไฟฟ้าที่อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ว่ากันว่าเขาจากโลกนี้ไป ในขณะที่แทบไม่เหลือทรัพย์สินอะไรติดตัว จนญาติพี่น้องแทบไม่มีเงินทำค่าฌาปนกิจ
นั่นก็เรื่องราวของแชมป์โลกผู้แสนอาภัพ เนตรน้อย ส.วรสิงห์ ที่ถึงแม้จะจากโลกนี้ไปนานกว่า 38 ปีแล้ว แต่คุณงามความดี ที่เคยฝากไว้ ในการสร้างความสำเร็จแก่ประเทศชาติ จะคงอยู่ในใจแฟนหมัดมวยตลอดไป
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com
