เวทีลุมพินียืนยันแพ้ชนะดูที่อาวุธ

เวทีลุมพินียืนยันแพ้ชนะดูที่อาวุธ

อ.อุดม ดีกระจ่าง ประธานฝ่ายเทคนิคของเวทีลุมพินี ยืนยันความพร้อมก่อนที่เวทีมวยลุมพินีจะกลับมาเปิดอีกครั้งใน วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน แม้ว่าจะเหลือกรรมการแค่ 15 คนก็ตาม แต่ไม่มีปัญหาเข้าใจสถานการณ์ของลุมพินี เนื่องจากไม่มีรายได้เข้ามาจึงต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ถ้าไม่พอก็จะนำเสนอต่อนายสนามเอง พร้อมยืนยันจะตัดสินตามมาตรฐานของ พ.ร.บ.มวย 2542 ขอให้แฟนมวยเข้าใจด้วย จะไม่เอาราคาบนล็อกมาเป็นตัวตัดสิน มวยจะแพ้หรือชนะอยู่ที่ใครออกอาวุธได้ดีกว่าบนเวที ส่วนเรื่องมวยที่เอาแต่เต้นในยกสุดท้ายนั้นเป็นปัญหาเรื้อรังที่ทุกเวทีเจอมา จะแก้ได้ต้องให้สำนักงานกีฬามวยเป็นแม่งานเรียกกรรมการทุกเวทีมาร่วมแก้ไขเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน

หลังจากที่เวทีมวยลุมพินีมีการแถลงข่าวยืนยันความพร้อมที่จะกลับมาจัดมวยอีกครั้งในวันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน ซึ่ง พล.ท.สุชาติ แดงประไพ นายสนามมวยลุมพินี และคณะกรรมการได้ร่วมกันแถลงข่าวพร้อมด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งจะมีการวัดอุณหภูมิแฟนมวยทุกคน รวมถึงลงทะเบียนไทยชนะ และมีเจลแอลกอฮอลล์ล้างมือทุกพื้นที่ของเวที

ในส่วนของกรรมการที่จะทำหน้าที่ในครั้งนี้ได้มีการปรับจำนวนเหลือเพียง 15 รายเท่านั้นจาก 25 ราย เรื่องนี้ อ.อุดม ดีกระจ่าง ประธานฝ่ายเทคนิคของเวทีลุมพินีได้เผยว่า ไม่มีปัญหา มวยคู่เดียวใช้กรรมการ 5 คนหมุนเวียนกันไป ก็ต้องเข้าใจว่าลุมพินีไม่มีรายได้อะไรในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่า 10 คนที่ออกไปเป็นคนที่มีประสบการณ์ก็ตาม แต่ว่าที่เหลืออยู่ก็ถือว่ามีประสบการณ์เช่นกัน แต่ถ้าไม่พอก็นำเสนอท่านนายสนามได้ โดยก่อนหน้านั้นตนได้พูดคุยกับกรรมการทุกคนแล้วพบกับนายสนามเพื่อรับนโยบายไปแล้ว

“ผมไม่ได้กดดันอะไรนะ เต็มที่เสมอ ทุกวันนี้สร้างกรรมการใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่ก็ดีขึ้นเป็นที่ยอมรับ แม้ว่าทุกวันนี้กรรมการจะมีหลายเวที แต่ที่นี่ลุมพินี ขอให้กรรมการทุกคนตั้งใจทำงานแล้วงานก็จะมาหาเราเอง ไม่ใช่เราวิ่งไปหางาน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็จะไม่เป็นตัวของตัวเอง ที่ลุมพินีมีมาตรฐานเดียวเท่านั้นไม่ว่าตัดสินที่ไหนตามกฏของ พ.ร.บ.มวย 2542 ที่ระบุชัดเจน 6 ข้อ ไม่มีการอิงราคาบนล็อกแน่นอน” อ.อุดม ยืนยัน

ส่วนปัญหามวยยก 5 ที่นักมวยเอาแต่เต้นไม่ออกอาวุธนั้น อ.อุดม เผยว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาเรื้อรังที่ทุกเวทีเจอกันมาตลอด ซึ่งก็มีแบบแผนให้ปฏิบัติชัดเจนอยู่แล้วว่ากรรมการต้องทำอย่างไรต้องมีเตือน มีตัดคะแนน ก่อนยกเลิกการแข่งขัน แต่ทั้งนี้เรื่องนี้อยากให้สำนักงานกีฬามวยเป็นแม่งานในการเรียกกรรมการทุกเวทีมาร่วมแก้ไขร่วมกันให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน เพราะการแก้ไขอะไรก็ตามก็ควรทำให้ชัดเจนทั้งระบบ ก่อนจะแถลงข่าวให้แฟนมวยรับทราบทั่วกัน