“แซมซั่น VS วีระพล”  สองแชมป์โลกผู้สร้างสุดยอดไฟต์แห่งความทรงจำ

“แซมซั่น VS วีระพล”  สองแชมป์โลกผู้สร้างสุดยอดไฟต์แห่งความทรงจำ


    คงไม่มีแฟนหมัดมวยคนไหนไม่รู้จัก “แซมซั่น ลูกเจ้าพ่อมเหศักดิ์” และ “วีระพล สหพรหม” เพราะทั้งคู่ต่างเป็น แชมเปียนโลกขวัญใจชาวไทยผู้ยิ่งใหญ่จาก 2 สถาบัน และเป็นอดีตยอดนักมวยไทยแห่งยุค ในเวตน้ำหนักเดียวกัน
 
    แซมชั่น เป็นจอมบู๊ดุดันอาวุธหนักแรงจากวิกลุมพินี ในศึกสายเพชรยินดี มีเสี่ยเน้า วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ คอยดูแล

ส่วน วีระพล ก็เป็นซือแป๋จังหวะฝีมือ จุกจิกชกยาก ครบเครื่อง ดีกรีแชมป์ 3 รุ่น ประจำเวทีราชดำเนิน โดยมี "อั้งม้อ" ชูเจริญ ระวีอร่ามวงศ์ เป็นผู้จัดการเดิม 
 
    เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน แฟนมวยต่างเรียกร้องอยากดู แซมซั่น ข้ามศึกมาเจอกับ วีระพล เพื่อพิสูจน์ว่าใครคือสุดยอดเบอร์หนึ่งแห่งยุคกันแน่

กระทั่งในศึกดาวรุ่งชูเจริญ นัดวันที่ 30 ตุลาคม 2534 “แซมซั่นอีสาน” แสนเมืองน้อย ลูกเจ้าพ่อมเหศักดิ์ โคจรมาเจอกับ “พยัคฆ์หน้าขรึม” นักมวยเจ้าถิ่น เป็นครั้งแรก ที่เวทีมวยราชดำเนิน


    บรรยากาศวันนั้นแฟนหมัดมวย ต่างเข้าสนามกันวิกแทบแตก เพราะนี่เป็นคู่มวยที่เหมาะสุด ไม่มีใครเกินอีกแล้ว ในภาคแรกตกลงชกกันในพิกัด 114 ปอนด์

แซมชั่น วัยเพียง 19 ปี รับค่าตัวสูงถึง 230,000 บาท เนื่องจากรูปร่างเสียเปรียบ แถมข้ามศึกมาต่อย ส่วน วีระพล มวยคนจัด ได้ค่าตัว 140,000 บาท

    ยกแรก แสนเมืองน้อย เปิดเกมเดินเข้าใส่ก่อน ส่วน วีระพล ที่ใช้จังหวะฝีมือคอยตั้งรับจับทาง ไล่แขน และใช้การจู่โจมเร็ว คอยเล่นงาน แซมซั่น คืน รูปเกมสู้กันได้สนุกสูสีตั้งแต่ยกที่ 1 ไม่มีตึ๊ดซึ่งเรียกราคา ต่างฝ่ายต่างสู้กันด้วยอาวุธมวยล้วน ๆ ระหว่าง สุดยอดมวยบู๊ กับ สุดยอดมวยฝีมือ 
 
    พอขึ้นยก 2 จังหวะฝีมือของ วีระพล เริ่มออกฉายมาให้เห็นมากขึ้น แต่ แสนเมืองน้อย ก็ยังไม่ท้อ พยายามเดินชิดติดตัว วีระพล เร็วขึ้น เพื่อทำลายจังหวะวงนอกที่ปราดเปรียว จนกระทั่งมาได้นาทีทอง แซมซั่นอีสาน สอยหมัดเข้าเต็มหน้า วีระพล

    แซมชั่น เมื่อเห็นท่า วีระพล ออกอาการเมา จึงระดมหมัดใส่ วีระพล ชุดใหญ่ จน  “พยัคฆ์หน้าขรึม” ร่วงลงไปนอนนับดาว แพ้น็อกยกไปในยกที่ 2 ท่ามกลางความดีใจของ “แสงเมืองน้อย” ที่ข้ามวิกมาปราบ วีระพล ได้สำเร็จ 
 
    2 ปีต่อมา วีระพล มีโอกาสแก้คืนกับ แซมซั่น แต่ครั้งนี้ ต้องข้ามฝั่งไปชกที่เวทีลุมพินี ในศึกทหารเสือ นัดวันที่ 11 พฤษภาคม 2536 โดยตกลงชกกันในพิกัด 116 ปอนด์ 

 ไฟต์นี้ วีระพล ปรับสไตล์มาชกดุดันขึ้น หลังจากภาคแรกไปเน้นลูกจังหวะฝีมือเยอะไปหน่อย ซึ่งก็ได้ผล ในยกแรก วีระพล ใช้ลูกเตะขา ต่อยหมัดหนักแรง จนแซมซั่นเริ่มออกอาการที่ขา

    แต่ยี่ห้อแซมซั่นการันตีความอึดอยู่แล้ว ช่วงปลายยก แสนเมืองน้อย มาได้จังหวะฮุกซ้ายเข้าเต็มปลายคาง วีระพล ร่วงไปกองกับพื้น ทำท่าจะฉายหนังม้วนเดิม ทว่า วีระพล ไม่ยอมแพ้ พยายามประคองสติลุกขึ้นมายืนให้กรรมการนับ 8 สถานการณ์บนล็อกวุ่นวายกันเลยทีเดียว 

    เมื่อกรรมการสับมือให้ชกต่อ แซมชั่น ปรี่เข้ามาระดมหมัดใส่ วีระพล หวังเช็กบิล โชคดีที่คุณพระระฆังมาช่วยชีวิต ไม่อย่างนั้น วีระพล มีสิทธิ์ได้หล่นอีกแน่ 

    ก่อนขึ้นยก 2 แซมซั่น กุมความได้เปรียบทุกอย่าง แต่ขึ้นชื่อว่าหมัดมวยอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ จากที่เขาเป็นต่อ 4-5 ช่วงตัว แซมซั่น พลาดท่าโดนหมัดของ วีระพล ร่วงไปให้กรรมการจับ 8 ถึง 3 ครั้ง พ่าย TKO ไป ท่ามกลางความสะใจของ วีระพล ที่ถอนแค้นได้สำเร็จ ถึงขนาดลงไปม้วนหน้ากับพื้นเวที 

    ในปีต่อมา พ.ศ.2537 วีระพล และ แสนเมืองน้อย หมดสิทธิ์เจอกันในกติกามวยไทย เนื่องจากทั้งคู่เบนเข็มไปชกมวยสากลอาชีพ โดย วีระพล ถูกเสี่ยฮุย สุชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ซื้อตัวไปปลุกปั้นต่อ เพื่อหวังผลักดันเข้าสู่สถาบัน WBC ส่วน แซมซั่น ถูกดันเข้าสู่สถาบันใหม่อย่าง WBF โดยการสนับสนุนของเพชรยินดี 

    ทั้งคู่ใช้เวลาเพียง 4 ไฟต์ก็สามารถเถลิงบัลลังก์แชมป์โลก โดย แซมซั่น สามารถป้องกันตำแหน่งรุ่น จูเนียร์แบนตัมเวท ได้ถึง 38 ครั้ง ยาวนานจนถึงปี 2544 ก่อนสละเข็มขัดแบบไร้พ่าย และแขวนนวมไปในที่สุด 

    ด้าน วีระพล เริ่มต้นจากได้แชมป์เงารุ่นซูเปอร์ฟลายเวท WBC ในปี 2537 ป้องกันตำแหน่งได้ 1 ครั้งก่อนสละแชมป์ แล้วโยกไปชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวท สถาบัน WBA กับ ดาวรุ่ง ชูวัฒนะ ผลปรากฏว่า วีระพล กระชากเข็มขัดมาจากเพื่อนร่วมชาติได้ แต่ก็มาเสียแชมป์โลกอย่างรวดเร็ว ในการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 1 

    วีระพล จึงกลับมาทำฟอร์มใหม่ กับสถาบันเดิม WBC รุ่นแบนตั้มเวท จนกระทั่งปลายปี 2541 วีระพล ได้โอกาสชิงแชมป์โลก โจอิจิโร ทัตสึโยชิ ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนั้น วีระพล อายุอานาม 30 ปีแล้ว แต่ก็ประกาศศักดาคว้าแชมป์โลกสถาบันหลักมาครอง และป้องตำแหน่งได้ถึง 14 ครั้ง ยาวนานถึง 6 ปี 

และด้วยความที่ วีระพล กับ แซมซั่น เป็นสองสุดยอดแชมป์โลกยุคเดียวกัน แถมตอนที่เจอกันในสังเวียนมวยไทย 2 ครั้ง ก็ชกกันได้ถึงพริกถึงขิงทุกภาค 

    ในปี 2560 เสี่ยโบ้ท – ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ จึงนำ แซมซั่น VS วีระพล มาเจอกันภาค 3 ต่อยแบบย้อนยุค ซึ่งผลการชก แซมซั่น เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน ท่ามกลางบรรยากาศคนดูแน่นสนาม ถือเป็นอีกหนึ่งคู่มวยคุณภาพที่หาชมได้ยาก และอยู่ในความทรงจำของแฟนหมัดมวยหลายคน

 


ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com

Facebook page : มวยเด็ด789

Youtube Channel : มวยเด็ด789