“โจ ณัฐวุฒิ” จอมบู๊เก๋าเกม วัย 35 ปี จากนครราชสีมา พร้อมกู้คืนฟอร์มเก่งปะทะอาวุธหนักกับ “ซุปเปอร์บอน” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) เฉพาะกาล วัย 34 ปี จากพัทลุง ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ในคู่เอกศึกใหญ่ไตรมาสสาม ONE ลุมพินี 81 ที่จะแข่งขันกันในวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา “โจ” ได้เปิดค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองพัทยา ที่เจ้าตัวใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมอยู่ในปัจจุบัน โชว์ความพร้อมล่าสุดให้บรรดาสื่อมวลชนได้เก็บภาพอย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อม ก่อนวัดแกร่งกับ “ซุปเปอร์บอน”
“ไฟต์นี้ผมเตรียมตัวเหมือนเดิมเลย เหมือนเดิมคือฝึกซ้อม หมัด เท้า เข่า ศอก ครั้งนี้ผมซ้อมอยู่ที่เมืองไทย 3 สัปดาห์ ก็จะนานหน่อย ปกติจะมาอยู่ที่นี่แค่อาทิตย์เดียว แต่ด้วยเวลาน้อย คือผมชกเสร็จก็กลับไปที่อเมริกา ทำงานอย่างเดียวเลยไม่ค่อยมีเวลาซ้อม ครั้งนี้เลยกลับมาซ้อมที่ไทยเยอะหน่อย ตอนอยู่ที่อเมริกาผมก็ซ้อมปกติเช้าเย็น แต่ผมทำงานไปด้วยครับ”
สำหรับไฟต์นี้ “โจ” ยังคงเน้นทำสภาพร่างกายของตัวเองให้ดีที่สุดเอาไว้ก่อนเพื่อทำผลงานให้เต็มที่ ส่วนเรื่องของการชกค่อยไปวัดฝีมือกับ “ซุปเปอร์บอน” บนสังเวียนอีกที
“ผมชกมวยมาขนาดนี้แล้ว ทั้งผมและคู่ต่อสู้เราต่างไม่มีอะไรหนักใจกันแล้ว แค่เตรียมตัวไปสู้ให้เต็มที่ทั้งคู่เท่านั้นครับ”
“ส่วนแผนการชกก็เหมือนกับที่บอกทุกครั้ง ผมเป็นมวยที่ไม่เคยวางแผน เราเตรียมไปทุกอย่าง ซ้อมหมัด ซ้อมเตะ ไป เมื่อขึ้นไปบนเวทีก็ดูอีกทีหนึ่ง แล้วก็ปล่อยไปตามเกม ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเขาเตะดีมาก เขามีหมัด เป็นนักมวยที่ฉลาดมาก ๆ คนหนึ่ง ส่วนแผนที่จะจัดการเขา แผนไม่มีนะ ไม่เคยวางแผนเลย ก็ขึ้นไปบนเวทีแล้วใส่ให้เต็มที่ครับ”
“ส่วนเรื่องความมั่นใจทุกครั้งเราให้ตัวเองเต็มร้อยอยู่แล้ว ขึ้นไปไม่ว่าชกกับใครก็ตาม เมื่อขึ้นไปแล้วความมั่นใจและการเตรียมพร้อมเต็มร้อยทุกครั้ง และเมื่ออยู่บนเวทีก็ว่ากันอีกทีหนึ่ง ผมว่าเกมนี้เป็นไปได้ทั้งหมด หนักทั้งคู่ โอกาสโดนมีด้วยกันทั้งคู่ เดาผลไม่ได้ ไม่เดาดีกว่า ถ้าตามสไตล์เราเลยผมไม่กล้าฟันธงครับ”
นอกจากนี้ นักชกวัย 35 ปี ที่มีคิวเปิดศึกไตรภาคเพื่อชิงเข็มขัดมวยไทยจาก “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” ในศึก ONE 169: Atalanta ในวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.นี้ ที่สหรัฐอเมริกา ยังเผยต่อว่า ผู้ที่คว้าชัยได้ในไฟต์นี้เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะได้ก้าวขึ้นไปชิงบัลลังก์ต่อไป แม้ว่าตนจะถูกวางตัวไว้แล้วก็ตาม
“ความวิตกผมไม่มี ผมโฟกัสที่ไฟต์นี้ก่อน ถ้าเอาตามความเป็นจริงเลยนะ ผู้ชนะน่าจะเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในการชิงแชมป์ครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นผมหรือเป็น ซุปเปอร์บอน ก็ช่าง แฟร์ ๆ เลย ความจริงมันควรเป็นแบบนั้นอยู่แล้วครับ”