“โปรหนุ่มน้อย” คนใต้ใจเกินร้อย ยอมหมดตัวได้เพื่อ “มวยไทย”
ยุคสมัยนี้คนวงการมวยไทยเดือดร้อนทั่วหัวระแรง หลายคนถอดใจเลิกทำมวย เพราะหมดไปเยอะมากแล้ว แต่บางคนก็ยังต้องยอมกรีดเลือดเฉือนเนื้อ ขาดทุนหลักหลายล้านบาท เพื่อทำมวยต่อไป โดยหวังว่ามวยจะได้ไฟเขียวกลับมาต่อยในเร็ววัน
เหมือนดั่งเช่นเรื่องราวของ สมนึก พัดบุรี หรือ “หนุ่มน้อย เมืองหาดใหญ่” โปรโมเตอร์ศึกเพชรหนุ่มน้อย และเจ้าของค่ายมวยสิงห์ป่าตอง + ศิษย์หนุ่มน้อย แห่งเมืองภูเก็ต
สมัยเป็นวัยรุ่น “หนุ่มน้อย เมืองหาดใหญ่” คือนักมวยดาวรุ่งฝีมือดีจากเมืองใต้ ที่สร้างชื่อให้ตัวเองเป็นที่รู้จัก ผ่านการเป็นนักชก เมื่อถึงวัยผู้ใหญ่ที่ต้องเลิกมวย เขาก็ยังอยู่กับวงการมวยไทยต่อไป โดยผันตัวเองมาทำธุรกิจเปิดยิม ค่ายมวย และเริ่มจับงานโปรโมเตอร์
โอกาสต่าง ๆ ในชีวิตการทำงานและด้านธุรกิจมวยไทยที่ หนุ่มน้อย ได้รับ ล้วนมีใบเบิกทางสำคัญมาจากการที่เขาเคยเป็น นักมวยไทยมาก่อน บวกกับความรักที่มีต่อกีฬาชนิดนี้อย่างสุดหัวใจ จึงทำให้ โปรโมเตอร์ หนุ่มน้อย มีความคิดที่อยากตอบแทนมวยไทยอยู่เสมอ
เขาเริ่มต้นจากการค่ายมวยเล็ก ๆ ที่ภูเก็ต ค่อย ๆ ปลุกปั้นพัฒนานักมวยไทย จนไปถึงรางวัลยอดมวยถ้วยพระราชทานมาแล้ว อย่าง เป็นเอก ศิษย์หนุ่มน้อย ขณะเดียวกัน เขาก็พยายามเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทยไปสู่สายตาชาวต่างชาติด้วย
โดย หนุ่มน้อย ถือเป็นคนทำมวยที่มีชื่อเสียงมากในด้านการสร้างและเฟ้นหานักมวยฝรั่งเข้ามาอยู่ในศึกสาย เพื่อสร้างสีสันและเป็นช่องทางให้ทำให้มวยไทยเป็นที่รู้จักในต่างแดนมากขึ้น
อาทิ ดาเมียน อลามอส, ราฟฟี่ สิงห์ป่าตอง, คาใจบ้า ภูเก็ตไฟต์คลับ, โลโบ้ ภูเก็ตไฟต์คลับ, มาเธียส เซเวนมวยไทย
นอกจากนี้ ในช่วงก่อนเจอพิษโควิด-19 โปรหนุ่มน้อย ยังจัดมวยให้ฝรั่งที่เดินทางมาเรียนมวยไทยกับค่ายในเครือของเขา ได้ชกมวยทุกสัปดาห์ด้วย ที่เวทีมวยป่าตอง ควบคู่กับศึกเพชรหนุ่มน้อย ที่เวทีลุมพินี ด้วย
ขอบคุณภาพจาก FB : Num Noi Singpatong
จนกระทั่งช่วง 1 ปีที่ผ่านมา “หนุ่มน้อย” ต้องเจอกับวิกฤตโควิด-19 รายได้หลักที่เขาได้จากฝรั่งที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเรียนมวยไทยก็หายไปพริบตา เพราะสถานการณ์ของโรคระบาด แถมมวยก็จัดไม่ได้ แต่มีรายจ่ายทุกวัน ทั้งค่าเช่าสนาม, ค่าทีมงาน, ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
แต่ปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าก็ไม่ทำให้ หนุ่มน้อย ถอดใจ เขายังพยายามมองหาวิธีการแก้ไขปัญหา เช่น การเป็นค่ายมวยนำร่องที่ประสานกับทางจังหวัดภูเก็ต จนสามารถนำมาฉีดให้นักมวยในค่ายได้ก่อนใคร เพื่อเตรียมความพร้อมของตัวเองก่อน
ขอบคุณภาพจาก FB : Num Noi Singpatong
โดย หนุ่มน้อย เมืองหาดใหญ่ ยังเชื่อมั่นว่า สักวันหนึ่งมวยไทยจะต้องได้กลับมาจัด และลั่นวาจาชัดเจนว่า “ที่ผมมีทุกอย่างในวันนี้ ก็เอาชื่อเสียงมาจากมวยไทย มาต่อยอดทำงานมาทำธุรกิจ”
“ถึงผมจะกับมวยอีกสักครั้งก็ยอม คนเราตายไปขนอะไรไปไม่ได้สักอย่าง สู้เพื่อลูกๆนักมวย สู้เพื่อมวยศิลปะประจำชาติไทย ผมรักมวยไทย หวังให้มวยไทยกลับมาชกได้เร็วๆครับ
นี่แหละครับ คนใต้คนจริง หนุ่มน้อย เมืองหาดใหญ่ โปรโมเตอร์น้ำดีผู้สร้างสรรค์วงการมวยไทยมาโดยตลอด และยืนยันหนักแน่นว่าจะขอทำเต็มที่ แม้ขาดทุนหนัก ก็จะสู้ต่อไปเพื่อมวยไทยที่เขารักสุดหัวใจ
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com
