ใครจะเยียวยา 1.2 แสน “แป๊ะยิ้ม ส.บุญมีฤทธิ์” ตั้งใจต่อยเต็มที่เขาผิดอะไร ?

ใครจะเยียวยา 1.2 แสน “แป๊ะยิ้ม ส.บุญมีฤทธิ์” ตั้งใจต่อยเต็มที่เขาผิดอะไร ?


    ลองจินตนาการดูว่านักมวยคนหนึ่งที่อุตส่าห์พลิกเกม จนได้รับชูมือเป็นผู้ชนะ และเตรียมคว้าเงินอัดฉีด 120,000 บาท

    แต่เงินก้อนโตจำนวนนั้นกลับหายวับไปกับตา เพียงเพราะคำตัดสินของกรรมการ ไม่ตรงกับความเห็นของเซียนมวยบางกลุ่มในเวที และพวกเขากลับเลือกไม่ยอมมัน ใช้วิธีกดดันกรรมการ เพื่อเปลี่ยนแปลงผลให้ไม่มีคำตัดสิน จนเกิดเป็นเหตุการณ์ที่วุ่นวายบานปลาย ส่อแววเกิดความรุนแรงในเวที

    ในตอนนั้นเวทีมวยราชดำเนินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก ประกาศไม่มีผลการตัดสินคู่ของแป๊ะยิ้ม กับ กระดูกเหล็ก เพื่อคลี่คลายสถานการณ์

    ท่ามกลางความสงสัยและคาใจของ “แป๊ะยิ้ม ส.บุญมีฤทธิ์” ไอ้หนูนักสู้วัยเพียง 19 ปีที่ตั้งใจพยายามพลิกสถานการณ์กลับมาเพื่อเอาชนะ เพื่อเงินอัดฉีดที่เขาสมควรได้ แต่สุดท้ายเงินก้อนโตที่คาดหวัง หายวับไปกับตา

    ทั้งที่แฟนมวยทางบ้านส่วนใหญ่ก็ต่างมองเห็นเหมือนกันกับกรรมการว่า “แป๊ะยิ้ม ส.บุญมีฤทธิ์” สมควรเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ 

    แป๊ะยิ้ม ถือเป็นนักมวยหนุ่มที่มีวินัยสูง ขยัน ตั้งใจ ใฝ่ดี ดูได้จากรูปร่างโครงสร้างที่สูงยาว แต่สามารถทำน้ำหนักลงชกเวต 108 ปอนด์ นั่นแสดงถึงระเบียบวินัย และการดูแลตัวเองอย่างดี คิดง่าย ๆ ถ้าเด็กเกเร ไม่ตั้งใจซ้อม มีหรือสูงขนาดนั้นจะทำน้ำหนักนี้ได้ แบบไม่ต้องบีบ

    เรื่องชั้นเชิง แป๊ะยิ้ม อาจไม่ใช่มวยที่อาวุธแพรวพราว แต่จุดแข็งของเขาคือลูกขยัน ตื๊อไม่หยุด โดยเฉพาะในระยะหลัง เจ้าตัวโชว์เพลงเข่าที่ดุดัน และมีความพยายามเดินเปิดเกมส์ตลอดไม่ว่าจะชกกับใคร

    จนสามารถปราบทั้ง ฉลามดำ ว.อุรชา ขึ้นชั้นมาสยบ วัชรพล มีนะโยธิน ก่อนสร้างชื่อด้วยการพลิกชนะ กระดูกเหล็ก อ.อัจฉริยะ (ก.กลมเกลียว) 

    แม้ในไฟต์แก้มือภาค 2 สถานการณ์ 3 ยกแรกเป็นทาง กระดูกเหล็ก ทำได้ดีกว่าชัดเจน แต่ในยก 4-5 และ แป๊ะยิ้ม ก็ไม่ย่อท้อพยายามเดินสู้เต็มที่ ชวนสู้วงในตีเข่า ต่อยหมัดสาดแข้ง เรียกทำทุกวิถีทางเพื่อพลิกเกมกลับมาได้

    ขณะที่ กระดูกเหล็ก เน้นไปถอยหลังตั้งรับจับทาง รัดเอวลงล่างเพื่อเผาเวลา เพราะมีราคาเป็นตัวตั้งและสภาพแวดล้อมเข้าทางมากกว่า ต่อยไปตามราคา ซึ่งจุดนี้จะไปตำหนิน้องกระดูกเหล็กก็คงไม่ได้ เนื่องจากเขามีสิทธิ์ที่จะเลือกชกรัดกุม เพื่อผลการแข่งขัน 

    แป๊ะยิ้ม ต้องพยายามคูณสองเพื่อเอาชนะใจกรรมการให้ได้ แม้ว่าบรรยากาศและราคาในสนามเป็นรอง แต่สุดท้ายการเดินสู้อย่างเต็มที่ของ แป๊ะยิ้ม ก็เป็นผล เพราะกรรมการมองเห็นว่าอาวุธไม่แพ้ แถมยังมีลูกขยัน เสียงส่วนใหญ่ 2-1 เสียงจึงเลือก แป๊ะยิ้ม เป็นผู้ชนะ

    ความจริงคู่นี้เกมค่อนข้างสูสี ชูใครก็ได้ ถ้าเอาทรงมวยสวยงาม เอาตามราคาเซียนพาไปก็เลือก กระดูกเหล็ก แต่ถ้าเอาคนขยัน เดินเปิดเกม และมาเร่งทำได้ในยกหลัง ก็เลือก แป๊ะยิ้ม ไม่ใช่ว่า แป๊ะยิ้ม แพ้แบบสู้ไม่ได้แล้วมาชูสวน แบบนี้ก็ไม่ใช่ 

    แต่แทนที่ แป๊ะยิ้ม มวยรองจะได้อัดฉีด 120,000 บาท ให้สมกับที่เขาควรได้ ก็ดันมาเกิดเหตุการณ์วุ่นวายเช่นนี้เสียก่อน จนทำให้เงินก้อนโตหลุดลอยไป เพราะคนเพียงไม่กี่คนที่ไม่ยอมรับผลการตัดสินและทำให้เรื่องราวมันบานปลาย ส่งผลกระทบไปถึงภาพลักษณ์ของวงการมวยไทย

    คำถามที่อยากถามคือ “แป๊ะยิ้ม” ทำอะไรผิด ? ในเมื่อเขาก็พยายามสู้เต็มที่แล้ว และกรรมการก็ชูมือให้ชนะไปแล้ว 

    ทำไมเขาถึงต้องมาถูกเปลี่ยนแปลงคำตัดสิน และทำไมคนที่เป็นมวยรองขยันตั้งใจสู้ ถึงชวดอัดฉีดถึง 1.2 แสนบาท โดยที่เขาไม่ได้ส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย

 


ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com

Facebook page : มวยเด็ด789

Youtube Channel : มวยเด็ด789