เจาะ 5 ประเด็นหลังเกม “จอมโหด” เฉือนเดือดยกสุดท้าย “เขี้ยว”
ควันหลงหลังศึก มวยไทย 7 สี ประจำวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน คงต้องยกให้คู่เอก ระหว่าง “จอมโหด เสริมพรวิวัฒน์” เจ้าของตำแหน่ง กับ “เขี้ยว พรัญชัย” ผู้ท้าชิง ที่มีเข็มขัดแชมป์เวทีมวยช่อง 7 สี รุ่น 115 ปอนด์ เป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะในไฟต์นี้
ผลการชกจบด้วยชัยชนะของ จอมโหด แบบเป็นเอกฉันท์ทั้ง 3 เสียง ส่งผลให้ เขี้ยว พรัญชัย ต้องกลับทุ่งสงมือเปล่า และทำให้ จอมโหด สามารถป้องกันตำแหน่งได้อีกสมัย ไว้ลายเสือเฒ่าวิก 7 สี วัย 32 ปี
มวยเด็ด 789 จะมาเจาะลึก 5 ประเด็นหลังเกม “จอมโหด” เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมมวยที่สูงยาวกว่า เดินสาดแข้งอย่าง เขี้ยว พรัญชัย ถึงอกหักแพ้นักชกรุ่นพี่ที่อายุห่างกันร่วม 9 ปี
1. ดีคนละอย่าง : รูปเกมในช่วงต้น เป็นไปอย่างที่หลายคนคิดไว้ คือ เขี้ยว พรัญชัย จะอาศัยช่วงที่ยาวกว่า เป็นฝ่ายสาดแข้งใส่ จอมโหด ขณะที่เจ้าของตำแหน่งแชมป์ ประเภทจงอางหวงไข่ เน้นป้องกันตัว แล้วโต้คืนด้วยลูกเจาะยาง ต่อยหมัด
ยก 1-2 เขี้ยว ขยันออกแข้ง มีช็อตเข้าเป้าเหน่ง ๆ อยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ถูกเก็บกัน และทางรุ่นพี่ก็เก็บอาการอยู่ ตรงข้ามกับ จอมโหด ที่ออกอาวุธไม่เยอะ เนื่องจากอายุมากแล้ว จึงไม่เร่งมากเกินไป เน้นออกแข้งเน้น ๆ ต่อยเนื้อ ๆ
จอมโหด ได้เรื่องลูกชัดเจน สังเกตว่า เขี้ยว เก็บแข้งกับหมัดไม่ค่อยอยู่ แต่ปริมาณที่ออกอาวุธก็น้อยไปหน่อย ภาพรวมสองยกแรก ต่างฝ่ายต่างมีดีคนละอย่าง ถ้าเดาใจกรรมการก็คงให้ทั้งคู่เสมอกัน ส่วนยก 3 มองว่า จอมโหด จะแจ้งกว่า มีลูกเหลี่ยมช่วยด้วย
2. ขาดลูกต่อเนื่อง : ความจริงวันนี้ เขี้ยว พรัญชัย น่าจะเก็บชัยชนะได้ เพราะอาวุธของเขาก็ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะยก 4 เขี้ยว พรัญชัย ทำได้ดีค่อนข้างดี ในจังหวะวางแข้ง เดินเร็วประชิดตัว ทำเอา จอมโหด โต้คืนได้น้อย แถมยังมาได้ลูกบิดเททิ้งส่งท้ายยก
น่าเสียดายที่เรายังไม่ค่อยเห็น เขี้ยว พรัญชัย มีจังหวะลูกต่อเนื่อง พอรู้ว่าตัวเองทำได้ เห็นว่า จอมโหด ยุบลง เรี่ยวแรงถดถอย แทนที่จะปิดเกม หรือหาจังหวะซอยเข่ากระทุ้ง ให้เกมขาด กลับเปิดช่องไฟให้ จอมโหด ได้หายใจ และตีโต้ หมดยก 4 เขี้ยว พรัญชัย พลิกกลับมาเป็นต่อก็จริง แต่รูปเกมไม่ได้ขาดขนาดนั้น
3. เก๋าเอาอยู่ : จอมโหด วันนี้เรี่ยวแรง ความเร็ว รูปร่างเสียเปรียบรุ่นน้อง แต่สิ่งที่ทำให้เขาเอาตัวรอดมาได้ คือ ความเก๋าเกมส์ ตั้งแต่จังหวะป้องกันเก็บกันอาวุธ การรู้จักผ่อนแรง เก็บแรง ลูกเหลี่ยมเชิง จังหวะรัดล่าง ขวางค้ำ ทำให้จังหวะวงในของ เขี้ยว ไม่ได้รุนแรง
ถ้าสมมติไฟต์นี้ จอมโหด ไม่ได้ลูกเก๋า ประสบการณ์ ความนิ่ง มาช่วย ก็ไม่รู้ว่าจบ 5 ยก เขาจะป้องกันเข็มขัดไว้ได้หรือไม่ ?
4. เกิดขึ้นในยกสุดท้าย : หลายคนพูดถึงยกสุดท้ายของคู่นี้ ในหลากหลายมุมมอง บ้างก็มองว่า เขี้ยว พรัญชัย ไม่จำเป็นต้องเดิน เพราะราคาต่อไกลถึง 6-1 บ้างก็บอกว่า เขี้ยว พลาดที่ไม่ยอมเดิน
ในมุมมองส่วนตัว การถอยมาคุมทรง ไม่ใช่เรื่องผิด และอันที่จริงคนที่สั่ง อยู่ด้านล่างเวที นั่นคือ พี่เลี้ยง ไม่ใช่ตัวนักมวย เพราะคงไม่มีฝ่ายไหนอยากสั่งให้นักมวยเดินออกไป แล้วถูกมองว่าเป็นตัวแพ้
ฝั่งของ เขี้ยว อาจคิดว่าตัวเองได้ยก 4 มาแล้ว ราคาก็เป็นต่อ ยก 5 ก็ถอยคุมทรงให้ จอมโหด เป็นตัวเดินบ้าง แต่พอมาเจอลูกเก๋าของ จอมโหด ที่ทำท่าว่าจะเต้นตาม แต่สุดท้ายอาศัยจังหวะ ชิงเตะกินเปล่า 2 ครั้ง โดยที่ เขี้ยว ไม่ได้ตอบโต้เลย
สถานการณ์ตอนนั้น เขี้ยว น่าเดินไปเอาคืนบ้าง หรือไม่ก็ก่อนหน้านี้ ควรออกอาวุธชัด ๆ สักชุดหนึ่ง แล้วคอยถอยมาคุมทรง
พอกลายเป็นว่ายก 5 มีแค่ช็อตเบิ้ลแข้งของ จอมโหด เท่านั้นที่จะแจ้ง ก็เลยทำให้ กรรมการ อาจมองว่า ผู้ท้าชิงแพ้ในยกนี้ ครบยกจึงชูมือให้ จอมโหด สอบผ่านเอาตัวรอดไปได้
5. บทเรียนผู้ท้าชิง : ไฟต์นี้น่าจะให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ เขี้ยว พรัญชัย โดยเฉพาะในเกมการชกที่มีเข็มขัดแชมป์เป็นเดิมพัน ทุกยกมีคะแนน ดังนั้นถ้าเป็นผู้ท้าชิง ก็ควรต้องเดินให้สุด หรือทำให้ชัดเจน เพื่อให้กรรมการพิจารณาเลือกเราเป็นผู้ชนะ ในเกมแบบนี้ ราคาเป็นสิ่งสมมติ อาวุธคือของจริง
ความจริงไฟต์ดูแล้วก็แอบเสียดายแทนเขี้ยว ถ้าเขี้ยว ได้ลูกต่อเนื่องยก 4 หรือต้นยก 5 มาฉายสักชุดหนึ่ง ที่เหลือค่อยไปตั้งรับ เก็บกันบังโต้ คุมทรง โอกาสที่ เขี้ยว จะชนะก็เป็นไปได้เหมือนกัน แต่พอยก 5 เลือกคุมทรงไวเกินไป แถมไปพลาดโดนเตะกินเปล่า ก็เลยทำให้ชวดโอกาสที่ได้เข็มขัดไป
นั่นก็เป็นเพียงแค่บทวิจารณ์ 5 ประเด็นหลังเกม “มวยเด็ด 789” ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะอย่าง จอมโหด และเป็นกำลังใจให้ผู้แพ้อย่าง เขี้ยว ที่อายุอานามยังน้อย ยังมีโอกาสได้แก้ตัวใหม่ในวันหน้า
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com
