เจาะประเด็นคู่มวยดราม่า! “ฉัตรพลอย” เจ๊าคาใจ “เทพทักษิณ”
เป็นอีกครั้งที่ศึกเชฟบุญธรรม มวยไทยออนไลน์ จบลงแบบมีประเด็นต้องคุยต่ออีกยาว ในสัปดาห์ส่งท้ายเดือนพฤศจิกายน 2563 คู่เอกระหว่าง เทพทักษิณ ศ.ศรสิงห์ พบกับ ฉัตรพลอย ส.พูลสวัสดิ์
ฉัตรพลอย ก่อนหน้านี้เขามีแผลถูกตำหนิมาจากไฟต์ล่าสุด ที่กรรมการประกาศไม่มีคำตัดสิน เนื่องจากถอยเยอะเกินไป รวมถึงเจ้าตัว ยังโดนกระแสวิจารณ์ค่อนข้างเยอะจากเซียนหมัดมวย จนทำสิ่งที่ไม่ค่อยเหมาะสม นั่นคือการหลุดออกมาตอบโต้แฟน ๆ จนกลายเป็นประเด็นเดือดบนโชเซียลมีเดีย
ก่อนชกไฟต์นี้ ฉัตรพลอย ให้สัมภาษณ์ว่า คงเน้นสไตล์จังหวะฝีมือเหมือนเดิม แต่จะมีการปรับทรงไม่ถอยทุกยกแบบเดิม เพื่อหวังเอาใจแฟนมากขึ้น
ซึ่งรูปเกมยก 1-2 ก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะฉัตรพลอย เป็นฝ่ายเดินเข้าหา เทพทักษิณ ศ.ศรสิงห์ ที่ไม่รู้วันนี้ คิดอย่างไร 2 ยกแรก นักชกแดนใต้ถึงได้ออกมาชกในเกมตั้งรับ วัดจังหวะวงนอก
แม้สองยกแรกอาจยังไม่มีแต้มให้ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ เทพทักษิณ แพ้จังหวะวงนอก แบบสู้ไม่ได้เลย ตรงข้ามกับฝั่งของฉัตรพลอย ออกอาวุธเข้าเป้ากว่าเยอะ ทั้งเร็วและแม่นยำ ส่วน เทพทักษิณ ถอยตั้งรับและโต้คืนแทบไม่ได้เลย
|
|
ดังนั้นยก 3 หากมองอย่างเป็นกลางไม่เข้าข้างใคร ยังไงมวยเข่าอย่าง เทพทักษิณ ก็ต้องปรับกลยุทธ์มาเป็นฝ่ายเดินก่อน พื่อหาจังหวะวงในไล่แขนตีเข่า ส่วน ฉัตรพลอย เมื่อได้ทำอาวุธนำพอสมควรในสองยกแรก ก็ต้องถอยเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายถอย เพื่อรอป้องกันจังหวะบุกของ เทพทักษิณ แล้วค่อยหาช่องสวนกลับ
เทพทักษิณ เป็นฝ่ายเดินเข้าทำก็จริง ในยก 3-4 และต้นยก 5 แต่ต้องยอมรับแทบไม่มีความชัดเจน เพราะถูก ฉัตรพลอย ขวางหน้าเก็บอาวุธวงใน ทำเอา เทพทักษิณ ตีไม่ถนัด ตียากลำบาก ไม่หนำซ้ำจังหวะที่ เทพทักษิณ หมายจะเดินเข้าไปจับใน ก็พลาดโดน ฉัตรพลอย เตะสวนฟรีไปหลายครั้ง
ถ้าวิเคราะห์คู่นี้ แบบไม่ต้องมีมุมมองของการพนัน และตัดสินตามอาวุธอย่างเดียว หมดยก 4 ยังไง ฉัตรพลอย ก็ดูเหนือกว่าคู่ชกพอสมควร วันนี้ทั้งจังหวะเดินทำช่วงต้น และตั้งรับช่วงกลางถึงปลาย ฉัตรพลอย ออกอาวุธเข้าเป้ากว่าเยอะ ผิดกับ เทพทักษิณ ที่ดูทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ราคาต่อรองกลับเป็นฝั่ง เทพทักษิณ ขึ้นเป็นต่อหลักช่วงตัว ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะ เทพทักษิณ ได้ลูกขยันเดินทำพยายามตลอด แต่ถ้าพิจารณาจากอาวุธ ก็ต้องยอมรับว่าจริง ๆ เทพทักษิณ เป็นรอง ฉัตรพลอย อยู่มาก
ผู้เขียนไม้่ได้มีส่วนได้เสีย ที่สำคัญมองคู่นี้แบบเป็นกลางมาก ๆ เพราะไม่อยากชี้นำใจ ถึงยังไงก็อยากให้กำลังใจนักมวยอาชีพทุกคนอยู่แล้ว
แต่ไฟต์นี้ มีเพียงราคาต่อรองและสภาพแวดล้อมเท่านั้นที่ยืนข้าง เทพทักษิณ โดยเฉพาะการตะโกนจากบนล็อกว่า “หนีอย่างเดียว ๆ” ถือเป็นการกดดันกรรมการอย่างหนึ่ง
สอดคล้องกับราคาในเวที ที่ไม่ว่า ฉัตรพลอย จะถอยและเก็บกันบังโต้ ได้จะแจ้งแค่ไหน ? ราคาก็แทบไม่ค่อยไหลข้ามฝั่งมาเลย ทำให้ชวนคิดได้ว่า บรรยากาศของเกมนี้ไม่ค่อยเป็นใจให้ ฉัตรพลอย สักเท่าไหร่
ยกสุดท้าย ทั้งคู่ออกอาวุธกันค่อนข้างน้อย เพราะเน้นถอยมาคุมรูปมวยเป็นหลัก แต่ถึงกระนั้น ฉัตรพลอย ก็ยังมาได้ทรงมวย จากจังหวะที่อีกฝ่ายเตะหลุดเข้าคามุม และตนเองโยกหลบได้ทัน
ผลสุดท้าย กรรมการให้ทั้งคู่เสมอกันไป แบบน่าคาใจ เพราะฝั่งเทพทักษิณก็มองว่าตัวเองน่าชนะ เนื่องจากราคานำหลัก 2-1, 3-1 ต่อ ส่วนฝ่ายฉัตรพลอย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าผิดหวังแค่ไหน ถึงขั้นที่ ฉัตรพลอย โพสต์เฟสบุคด้วยความสงสัยว่า ‘ตนแพ้หรือเสมอลูกไหน และตนต้องชกอย่างไรถึงเป็นผู้ชนะ”
อันที่จริงคู่นี้หากไม่มีเรื่องสภาพแวดล้อมที่กดดัน เชื่อว่าเป็นเกมที่ตัดสินได้ไม่ยากเลย แต่พอมีปัจจัยอื่น ๆ โดยรอบสนาม ก็อาจทำให้กรรมการผู้ให้คะแนนน ไม่ได้ออกมาอย่างที่ควรจะเป็น ? สุดท้ายกรรมการชูเสมอ ก็ออกมาในแบบที่คนดูอย่างผม ซึ่งไม่ได้เล่นฝั่งไหนสักบาทเดียว ยังรู้สึกงงกับคำตัดสิน
แทนทีเด็กคนหนึ่งจะได้รับอัดฉีดหลักแสน หากเอาชนะ ทุกอย่างก็ถูกรีเซทใหม่ด้วยผลชูเสมอ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถอดใจหายเบาๆ ทำได้แค่ถอนหายใจเบา ๆ กับคำตัดสิน “ฉัตรพลอย” เจ๊าคาใจ “เทพทักษิณ” เอาเป็นว่าแฟน ๆ หมัดมวย มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคู่นี้ ลองแลกเปลี่ยนมุมมองกันได้ครับ แต่รบกวนขอให้สุภาพนิดหนึ่งนะครับ เพื่อรักษาน้ำใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com
