เจาะลึกเหตุผล “เชฟบุญธรรม” ทำไมถึงลาออกจากราชดำเนิน ?

เจาะลึกเหตุผล “เชฟบุญธรรม” ทำไมถึงลาออกจากราชดำเนิน ?


    เป็นข่าวใหญ่ประจำวันเลยทีเดียว สำหรับการตัดสินใจลาออกจากการทำหน้าที่ โปรโมเตอร์เวทีราชดำเนิน ของ เชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์ 

    รวมถึง 3 โปรโมเตอร์อย่าง ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ จากศึกเพชรยินดี, สุเมธ ซื่อสัตตบงกช จากศึกวันมิตรชัย และ กิ่งทอง น.นาคสินธุ์ (ลูกพระบาท) จากศึกวันกิ่งทอง ที่จะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวลาออกจากสังเวียนราชดำเนิน ในวันพรุ่งนี้ที่ค่ายเพชรยินดี จรัญสนิทวงศ์ 34 

    ที่ต้องหยิบมาเขียนในวันนี้ เพราะว่า เชฟบุญธรรม คือ หนึ่งในโปรโมเตอร์คนสำคัญของ เวทีราชดำเนิน แม้จะเพิ่งเข้ามาได้ทำหน้าที่นี้ได้เพียง 2 ปี แต่ก็มีผลงานการจัดมวยไม่ธรรมดา ได้รับกระแสตอบรับที่ดี มาตลอด

    โดยเฉพาะ ผลงานชิ้นโบว์แดง ที่เป็นโปรโมเตอร์ที่สร้างประวัติศาสตร์ เก็บค่าเข้าชมมวยไทยเวทีมาตรฐาน ได้มากสุด ถึง 6.3 ล้านบาท ในศึกวันสถาปนาสนามมวยเวทีราชดำเนิน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา นี่เอง 

    แถมช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ก็มีไอเดียที่จัดมวยวันอาทิตย์ ค่าตั๋ว 100 บาท ที่เวทีมวยราชดำเนิน เพื่อดึงดูดผู้ชมหน้าใหม่ 

    เรียกว่า เชฟบุญธรรม กับเวทีราชดำเนิน ทำงานกันอย่างราบรื่น ไม่มีท่าทีว่าจะแยกทางกัน ? แต่เหตุใด ถึงอำลาตำแหน่งนี้ กับเวทีมวยที่เขารัก และมีความผูกพันมา ตั้งแต่ยังไม่เข้ามาทำงานวงการมวย 

    มวยเด็ด 789 จะมาสรุปเจาะลึกให้ทุกท่านได้อ่าน! 

    เหตุผลข้อแรกที่ทำให้ตัดสินใจแยกทางกับ เวทีมวยราชดำเนิน มาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้ มวยไทย ยังไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ โดยเฉพาะ เวทีมาตรฐาน นั้น ยังไม่มีใครรู้ความชัดเจนเลยว่า อีกนานกี่เดือนกว่าจะกลับมาจัดมวยไทยแบบสนามเปิดได้ ?

    แถมเมื่อเปิดสนามแล้ว ก็ยังไม่มีใครการันตีได้อีกว่า จะมีคนเข้ามาดูเยอะแค่ไหน ? ถ้าหากตอนนี้เป็นสถานการณ์ปกติ เชื่อว่าคงไม่มีทางโบกมือลาเวทีราชดำเนินอย่างแน่นอน เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ คงไม่อยากทิ้งโอกาสไปง่าย ๆ 

    พอทุกอย่างเปลี่ยนไป ก็ต้องเลือกหาวิธีการ หนทางใหม่ๆ เพราะเขามีลูกน้องนักมวยอีกหลายสิบชีวิตที่ต้องดูแล ครั้นจะรอมวยถ่ายทอดสดนำไปขึ้นรายการ ก็มีรายการน้อยเหลือเกิน ไม่เพียงพอต่อปริมาณนักมวย 

    เหตุผลข้อสอง เพราะกำลังจะจัด มวยไทยออนไลน์ ของตัวเอง ซึ่งก็มีเคยการพูดคุยเรื่องนี้ กับผู้ใหญ่หลายท่าน รวมถึงเวทีมวยราชดำเนิน 

    แต่เนื่องจากแนวทางการจัดมวยไทยออนไลน์ นั้น เป็นมิติใหม่ของวงการมวยไทย ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่า จะได้กำไร หรือขาดทุน เป็นรูปแบบที่มีความเสี่ยงขาดทุนเหมือนกัน 
    
    ดังนั้น คงมองไปถึงเรื่องการลดต้นทุน เรื่องค่าเช่าสนาม เพราะมวยออนไลน์ เน้นคนดูถ่ายทอดสด มากกว่าคนดูในสนาม ก็ไม่จำเป็นต้องเน้นเวที ที่มีที่นั่งผู้ชมเยอะ แบบเวทีมวยมาตรฐาน เพื่อเก็บค่าบัตร 

    ฉะนั้น สามารถเลือกได้ว่า จะไปจัดชกที่ไหน เพื่อให้ต้นทุนค่าสนามถูกลง หรือมีโควต้าสอดคล้องกับแผนงานที่เลือกได้ว่า จะจัดวันไหน เวลาไหน ส่วน เวทีมาตรฐาน ยังไงก็ต้องยึดตามโควต้าที่สนามจัดให้เป็นลำดับแรก

    เหตุผลข้อสาม เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการแข่งขัน หากจัดที่เวทีราชดำเนิน แน่นอนว่า เขาต้องปฏิบัติตามกฏ ประสานกับหลายฝ่าย 

    การถอยออกมาจัดเอง ทำให้ สามารถตัดสินใจอะไรได้ง่ายกว่า ด้วยตัวเอง ลดขั้นตอนกระบวนการ สามารถขายสปอนเซอร์ หรือดำเนินการแข่งขันได้คล่องตัว กลับมาจัดมวยไทยได้อย่างรวดเร็ว ทันทีที่จะรัฐอนุญาต 

    ทั้งนี้ ยังออกมาบอกอีกว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณโอกาสที่ ทางเวทีราชดำเนิน มอบให้ ซึ่งตนเข้าใจ สนามมวย เป็นอย่างดี ยืนยันไม่มีปัญหาบาดหมางของสนาม พร้อมจะช่วยเหลือหากทาง เวทีมวยราชดำเนิน ต้องการ

    เพียงแต่ตอนนี้ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากทดลองออกมาทำอะไรด้วยตัวเองก่อน   ถ้ามันจะไม่ประสบความสำเร็จ อย่างน้อยเขาก็ได้รับผิดชอบด้วยตัวคนเดียว 

    แต่หากมวยไทยออนไลน์ของเขา ประสบความสำเร็จ มันก็จะเป็นแนวทางใหม่ให้กับ ผู้จัดมวยในไทย

 


ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com