วิจารณ์หลังเกม “เพชรสุนทรี” แค่ซ้ายยาวอาจไม่พอ

เรียกว่าพลิกล็อกกันตั้งแต่เปิดตัวคู่เอก ศึกจ้าวมวยไทย นัดวันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เมื่อ เพชรสุนทรี จิตรเมืองนนท์ ที่บรรดาเซียนต่างมองว่า ไฟต์นี้น่าจะสอบผ่านไปได้ เป็นฝ่ายแพ้คะแนน สมิงดำ ฉ.อจลบุญ ไปแบบขาดลอย 49-47 ทั้ง 3 เสียง

แม้สถิติที่เคยเจอกัน สมิงดำ จะเคยเอาชนะ เพชรสุนทรี สมัยยังใช้ชื่อ ชัยมงคล มาแล้ว 1 ครั้ง แต่ก่อนชกไฟต์นี้ ใครก็มองว่า เพชรสุนทรี ดูดีกว่า ทั้งรูปร่าง ความมั่นอกมั่นใจ ช่วงหลังมาแรงเหลือเกิน มาสะดุดแค่แพ้ โยธิน เอฟ.เอ.กรุ๊ป สุดยอดมวยเข่าแห่งยุคแค่คนเดียว

นอกนั้น เพชรสุนทรี เก็บมาเรียบ เตรียมขึ้นชั้นไปอีกขั้น เป็นนักมวยเกรดเอของค่ายจิตรเมืองนนท์ โดยมี สมิงดำ เป็นด่านทดสอบครั้งสำคัญ ก่อนชกสายตาเซียนจึงมองว่า เพชรสุนทรี ดูดีกว่า สมิงดำ

มวยไทยยุค New Normal มีการปรับกติกาเล็กน้อย โดยเฉพาะจังหวะวงใน ถ้ากอดปล้ำไม่ออกอาวุธ หรือออกแล้วไม่ชัดเจน กรรมการรีบจับแยกทันที ถ้ากอดแล้วทำได้ กรรมการปล่อยตี ดังนั้นมวยประเภทขุนเข่าจึงเสียเปรียบ จะมาถูขี้ไคล กอดรัดฟัดเหวี่ยงตัวกลมแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว

กติกาแบบนี้เข้าทาง เพชรสุนทรี มากกว่า สมิงดำ เพราะเพชรสุนทรี มีแข้งซ้ายยาว ๆ จะถีบ หรือ เตะ ก็ถึงตัวเร็วกว่า สมิงดำ ที่เป็นมวยประเภทเข่า จะเข้าไปกอด ปล้ำตี แต่ละครั้งต้องคิดให้หนัก ถ้ากอดแล้วทำไม่ได้ เสียเที่ยวแน่ เพราะกรรมการมีมาตฐานใหม่แล้ว ไม่ให้กอดนาน

การเจอครั้งนี้ มีเข็มขัดแชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย เป็นเดิมพัน เพชรสุนทรี คงอยากได้มันมาครอบครองอย่างแน่นอน ดังนั้นไม่แปลกที่ทรรศนะของเซียน จะชี้ไปทาง เพชรสุนทรี

 เกมการชกบนเวที อันดับแรกต้องชื่นชม สมิงดำ ปรับสไตล์จากมวยเข่า เปลี่ยนมาสู้ด้วยแข้ง ยืนแลกแข้ง แลกหมัด หาจังหวะดักแทงเอา  ส่วน เพชรสุนทรี ดูใจเย็นไม่บุ่มบ่าม เหมือนถนอมแรงไว้ สถานการณ์และราคาอยู่ทาง เพชรสุนทรี 

แต่พอผ่านยก 3 เข้ายก 4 อาวุธของสมิงดำ เริ่มทำได้ดี เข้าเป้า เข้าจุดสำคัญ ทำเอา เพชรสุนทรี ออกอาการช็อต โดยเฉพาะยก 4 ที่เรียกว่าเห็นได้ชัดเจนว่า พละกำลังของ เพชรสุนทรี อ่อนแรงลงไป ความหนักแน่นลูกเตะที่เคยทำได้ดีช่วงต้น แผ่วเบาลงไปมาก

    สุดท้ายจบลงที่การสารภาพในยก 5 ทำเอาคนที่ออกตัวต่อ เพชรสุนทรี ถึงกับเซ็งไม่น้อย ในขณะที่ สมิงดำ ยังดูหายใจสบาย เตะได้น้ำได้เนื้อ เพชรสุนทรี กลับหมดแรงไปดื้อ ๆ แบบไม่ต้องลุ้นถึงฎีกา

    ไม่ปฏิเสธว่า ลูกวางแข้งซ้ายของ เพชรสุนทรี หนักแรง และรูปร่างสูงยาว ทำให้เขาได้เปรียบคนอื่น แต่แค่นั้นคงไม่เพียงพอ หากต้องการยกระดับตัวเองไปอีกขั้น

วิจารณ์หลังเกม “เพชรสุนทรี” เขาจำเป็นต้องมีพละกำลัง รวมถึงการยืนระยะช่วงท้าย ๆ สังเกตดูว่า เพชรสุนทรี วันไหนแพ้ ไม่ใช่ว่าวันนั้นเขาสู้ไม่ได้ ตอนต้นเขาทำได้ดีแล้ว แต่แค่นั้นไม่พอเพียง เขาต้องเรียนรู้ว่าจะปิดเกมอย่างไร จะยืนมวยอย่างไร ฟิตซ้อมแบบไหนให้ยังไหวถึงช่วงปลาย นั่นเป็นการบ้านที่เขาต้องไปปรับปรุง

อย่างไรก็ดี ก็ต้องแสดงความยินดีกับ สมิงดำ ฉ.อจลบุญ ที่เข้าป้ายชนะ รักษาแชมป์ไว้ได้ และเป็นกำลังใจให้ผู้แพ้ เพชรสุนทรี จิตรเมืองนนท์ อนาคตยังอีกไกล ปรับปรุงให้สมบูรณ์กว่านี้ ยังไปได้ไกลกว่านี้

ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com