ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับศึก ONE164 ในวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค.นี้ ที่มะนิลา ฟิลิปปินส์ โดยคู่ไฮไลท์ที่เชื่อว่าแฟนมวยชาวไทยสนใจ นั้นก็คือ ศึกชิงแชมป์มวยรอบ มวยไทย เวิล์ด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวท ระหว่าง ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่9 ปะทะ พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์
สำหรับแฟนมวยยุค 10 หลัง เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักนักมวย 2 คนนี้แน่นอน ซึ่งสมัยที่ชกมวยไทยในประเทศไทย ทั้งคู่ถือว่าเป็นจอมฝีมือชกยาก ชนิดไร้เทียมทานทั้งเวทีมวยลุมพินี และ ราชดำเนิน
ซึ่ง ซุปเปอร์เล็ก นักชกจาก จ.บุรีรัมย์ สังกัดศึกเพชรยินดี พริ้วจนที่ว่าต้องต่อน้ำหนักให้คู่ชก จนบางครั้งต้องร้างสังเวียนไปนาน เพราะไม่มีคู่ชกก็เคยมาแล้ว ทางต้นสังกัดรวมถึงทางค่ายเกียรติหมู่9 ก็พยายามหารายการทางต่างประเทศให้โกอินเตอร์ แต่จนแล้วจนรอด ซุปเปอร์เล็ก ก็ยังตกล็อกอยู่ดี กระทั้งได้มาชกอยู่ในสังกัด ONE Championship
ขณะที่ พันธ์พยัคฆ์ ยอดมวย 3 พ.ศ.คนแรกและคนเดียวของเมืองไทย เป็นนักชกที่ถูกกล่าวขานว่า ชกยากที่สุด จากปากของคู่ต่อสู้ของเขาหลายๆคน โดยเจ้าคล้าว แทบจะไม่ได้ขึ้นชกมวยไทยเลยเป็นเวลานานมาก และต่อมาได้รับการติดต่อไปเป็นครูมวยอยู่ที่ Evolve Gym ประเทศสิงคโปร์ และ รอคอยโอกาสอย่างอดทน จนได้ชกในรายการ ONE และไม่ทำให้แฟนมวยต้องผิดหวัง ด้วยเปลี่ยนสไตล์มาบู๊มากขึ้น จนสามารถชนะน็อก ไมเคิล ซาวาส ได้สำเร็จ
โดยทั้งคู่เจอกันมาแล้ว 7 ครั้ง เป็น พันธ์พยัคฆ์ ชนะ 4 ครั้ง, ซุปเปอร์เล็ก ชนะ 2 และเสมอกัน 1 ครั้ง โดยไฟต์ล่าสุดชกกันในรายการ ONE Championship เป็น ซุปเปอร์เล็ก เฉือนชนะไปแบบสุดหวิว แต่การชก ภาค 8 อะไรๆก็ไม่เหมือนเดิม ซุปเปอร์เล็ก มีประสบการณ์ในการชกในเวทีมวยระดับโลกมากขึ้น เรื่องอาวุธ ปรับมาเป็นมวยหลากหลาย ศอกคม แข้งก็ยังเตะได้เฉียบขาดเหมือนเดิม
ขณะที่ พันธ์พยัคฆ์ ไม่ต้องพูดถึง จริงๆแล้ว เขาเป็นมวยที่อาวุธหนักทั้งแข้งทั้งศอก แต่ด้วยเกมแบบมวยไทย 5 ยก ทำให้บางครั้งประหยัดอาวุธเกินไปจนดูไม่สนุก แต่ทว่าหลังจากที่เขาได้เดินทางไปอยู่ที่สิงคโปร์ และได้ซึบซับวิธีการชกแบบเอนเตอร์เทรนมากขึ้น ทำให้สไตล์การชกเปลี่ยนไปแบบผิดหูผิดตา
เชื่อว่า แฟนมวยชาวไทยคงเฝ้ารอดูการชิงแชมป์ระหว่าง ซุปเปอร์เล็ก-พันธ์พยัคฆ์ ภาค8 ในวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 18.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่คาดว่าจะแตกต่างจาก 7 ไฟต์ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ทั้งคู่จะต้องสาดอาวุธใส่กันสนุกดุเดือดแน่ๆ
แต่การชิงแชมป์เพื่อเป็นเจ้าของเข็มขัด เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ สีเงิน ในครั้งนี้กลับไร้เจ้าของไปโดยปริยาย เมื่อผลการชั่งน้ำหนักออกมาว่า “ทั้งคู่ไม่ผ่านพิกัดที่กำหนดของรุ่นฟลายเวต (125-135 ป.)” ตามระเบียบของ ONE ที่เข้มงวดมาก ที่กำหนดว่า หากเป็นคู่ชิงแชมป์และทำน้ำหนักไม่ผ่านจะหมดสิทธิ์ในการชิงเข็มขัดทันที “ตกตาชั่งแพ็คคู่” ไปอย่างน่าเสียดาย
แม้ไม่มีเข็มขัดให้เดิมพัน แต่ยังมี “อันดับในแรงกิง” ที่ทั้งคู่ต้องรักษาไว้ โดย “ซุปเปอร์เล็ก” แรงกิงอันดับ 1 ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ส่วน “พันธ์พยัคฆ์” อยู่อันดับ 2 ผลแพ้ชนะในครั้งนี้มีผลต่อการขยับแรงกิง ผู้ท้าชิงแชมป์โลกคนต่อไปของ “รถถัง จิตรเมืองนนท์”
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าถึงแม้จะไม่ต้องช่วงชิงเข็มขัดแชมป์กันบนเวทีในครั้งนี้ แต่ทั้งคู่ก็ยังต้องต่อสู้เพื่อรักษาอันดับแรงกิงของตนเองกันอย่างดุเดือด ถ้าให้ฟันธง ยังชอบ พันธ์พยัคฆ์ วัดจากสถิติที่ผ่านมา ขนาดแข่งกันเรื่องความเร็วก็ชนะมาแล้วตั้ง 4 ครั้ง คราวนี้แข่งกันที่อาวุธ ก็ยังเชื่อว่า พันธ์พยัคฆ์ ดูดีกว่า และแฟนมวยล่ะครับ คุณชอบใคร ช่วยแสดงความเห็นกันเข้ามาหน่อย