แฝดกระนวนฟอร์มโหด ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน

แฝดกระนวน

นักมวยคู่แฝดในวงการมวยไทยยุคปัจจจุบันที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนั้นมีอยู่หลายคู่ แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นแฝดจาก อ.กระนวล จ.ขอนแก่น นั้นก็คือ ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน ที่กำลังทำผลงานเป็นที่กล่าวขานกันทั้งวงการว่า เขาคือมวยคู่แฝดที่ดีที่สุดแห่งยุค เรื่องราวบนเส้นทางสังเวียนเลือดของทั้งคู่เริ่มต้นอย่างไร และจะเดินทางไปจนถึงจุดไหน มวยเด็ด 789 จะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักตัวตนของนักชกทั้งคู่กัน

ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย เกิดเมือวันที่ 7 มิถุนายน 2548 ณ ต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวล จ.ขอนแก่น โดยมี บูมเด็กเซียน อภิปรัชญ์ เลิศรักษ์ชีวกุล เป็นผู้จัดการและหัวหน้าคณะ จุดเริ่มต้นการเป็นนักมวยของ ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย มาจากการที่ทั้งคู่อยากเป็นนักมวยมาตั้งแต่จำความได้ จึงเริ่มต้นหัดชกมวยตอนอายุ 9-10 ขวบ โดยมี ครูเล็กมวยไทย และ ครูโต้งมวยไทย เป็นครูมวยให้สมัยที่เริ่มขึ้นสังเวียนแรกๆ หลังจากทั้งคู่ชกอยู่ภูธรประมาณ 20 กว่าครั้ง ครูโต้ง ได้นำ ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย มาฝากให้ บูมเด็กเซียน ดูแล

สำหรับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย คือการได้มาอยู่ภายใต้การผลักดันของ บูม เด็กเซียน ซึ่ง ณ เวลานั้นทั้งคู่อายุเพียง 12 ปี โดย ครูโต้ง มวยไทย เห็นว่า บูม เด็กเซียน สามารถรับบทป่าดันจน ยอดเพชรเอก-ยอดเพชรโท ดังเป็นพลุแตก จึงมีการติดต่อกันทางโลกออนไลน์ และเป็นที่มาของ ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย จนถึงทุกวันนี้

บูม เด็กเซียน เปิดใจว่า เดิมทีไม่ได้มีความคิดว่าจะรับนักมวยเพิ่ม แต่ด้วยกระแสความโด่งดังของ ยอดเพชรเอก-ยอดเพชรโท ตั้งแต่สมัยคว้าเดิมพัน หกแสนที่เวทีมวย อตก.3 พอ ครูโต้ง เห็น จึงได้เสนอให้เอา ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย มาให้ปลุกปั้น ด้าน บูม คิดดูแล้วก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฎิเสธ เพราะ เห็นว่า การที่มีมวยคู่แฝด 2 คู่อยู่ในค่ายเดียวกันนั้นเป็นไปได้ยาก และเป็นสีสันให้กับวงการมวย ประกอบกับ บูม ได้เห็นคลิปการซ้อมของ ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย ก็รู้สึกชอบทันที จึงรับปากว่าจะสร้างเด็กสองคนนี้ให้เป็นที่โด่งดังไม่แพ้ ยอดเพชรเอก-ยอดเพชรโท

ช่วงแรกที่มาอยู่ที่ค่ายบูมเด็กเซียน ทางทีมงานก็ไม่ได้คาดหวังว่าทั้งคู่จะเป็นมวยดังในอนาคต แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดตั้งแต่วันแรกที่เข้าค่าย จนถึงวันนี้ที่เป็นปีที่5 คือ เด็กทั้งคู่ไม่เคยขี้เกียจซ้อม หรือไม่เคยปิดกั้นสิ่งใหม่ๆที่ทางเทรนเนอร์มอบให้ จนพัฒนาฟอร์มขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ชนิดที่ตัวของ บูม และทีมงานเอง ก็ไม่คาดคิดว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้

สมัยที่เดินสายชกภูธรตอนช่วงพิกัด 40 กก. ทั้งคู่แทบจะไร้เทียมทานและฉายแววความเป็นมวยเอกอย่างเต็มตัว ซึ่ง ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย เป็นมวยเด็กที่มีอาวุธหลากหลายครบเครื่อง กล้าออกหมัด มีศอกสลับ เหลี่ยมตัวเหนือชั้น ผิดกับมวยเด็กหลายๆคนที่จะเน้นที่เข่าเป็นหลัก

สำหรับจุดเด่นของทั้งคู่จากปากเจ้าตัว คือ ขุนศึกเล็ก จะเป็นมวยที่สุขุมรอบคอบ เน้นออกอาวุธหนักแรง และจะรอจังหวะที่คู่ต่อสู้เพรี่ยงพร้ำสวนกลับคือแบบหนักๆ จนไปถึงการป้องกันที่สุดยอด เน้นไปที่ผลการแข่งขันและแผนที่ทีมงานวางเอาไว้ ขณะที่ ขุนศึกน้อย จะเป็นประเภทตรงกันข้ามเล็กน้อย คือ ขุนศึกน้อย จะเป็นมวยขยันออกอาวุธ กล้าแลกกล้าลุย และ กล้าโชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ออกอาวุธแบบเป็นชุด และบีบให้คู่ต่อสู้ไม่มีจังหวะตอบโต้

โดยไฟต์สำคัญเป็นที่ประทับใจของ ขุนศึกเล็ก ก็คือการคว่ำ เหนือธรณี จิตรเมืองนนท์ หลับยกสาม เนื่องจากไฟต์นั้น ขุนศึกเล็ก แม้ว่าจะผลงานไร้พ่ายมายาวนาน แต่การขึ้นชั้นไปเจอกับมวยกระดูกขัดมันอย่าง เหนือธรณี ก็ไม่ใช้เรื่องง่าย แต่ ขุนศีกเล็ก สามารถชนะน็อกลงมาได้อย่างสวยงาม ขณะที่ของ ขุนศึกน้อย คือไฟต์ที่จัดการมวยรุ่นพี่อย่าง เพชรเอก เกียรติจำรูญ เนื่องจากไฟต์นั้นก่อนชกหลายคนมองว่าสู้ความเก๋าของ เพชรเอก ไม่ได้ แต่ขึ้นไปเพียงสามยกก็เตะขาดท่อนจนเซียนน้อยใหญ่รับสารภาพ

โดยผลงานในปัจจุบันของ ขุนศึกเล็ก ไม่แพ้ใครมา 4 ปี ทั้งหมด 33 ไฟต์ ปัจจุบันค่าตัว 4 หมื่นบาท แถมยังเป็นเจ้าของแชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อยรุ่น 118 ปอนด์ อยู่ด้วย ณ เวลานี้พิกัด 114-116 ปอนด์ แทบจะไม่ต้องเลือกคู่ชก ขอแค่โปรโมเตอร์สมหมายเอ่ยมา หรือว่ามีทางสังกัดอื่นอยากเอาไปสร้างสีสัน พร้อมให้เดินทางไปชกทุกที่ ส่วน ขุนศึกน้อย ก็ผลงานไม่น้อยหน้า 25 ไฟต์ แพ้แค่ไฟต์เดียว ถือว่าแฝดคู่นี้มีสถิติที่น่าทึ่งมาก

โดยโปรแกรมถัดไปของทั้งคู่ในปี 2566 ได้มีการวางเอาไว้เรียบร้อย โดย ขุนศึกเล็ก จะวัดฝีมือกับ เพชรบ้านไร่ สิงห์มาวิน ในศึก ONE LUMPINEE ส่วน ขุนศึกน้อย จะเดินทางไปโกอินเตอร์ที่แดนปลาดิบกับนักชกญี่ปุ่นในกติกาคิกบ็อกซิ่ง อย่างไรแฟนมวยก็ติดตามเป็นกำลังใจให้กับนักมวยทั้งคู่ได้

ส่วนคำถามที่แฟนมวยถามกันเข้ามาเยอะ ถ้า ขุนศึกเล็ก เกิดแพ้ขึ้นมา ทางทีมงานจะทำอย่างไร จะเสียใจมากไหม เรื่องนี้มวยเด็ด 789 ได้ไปถามกับ บูมเด็กเซียน มาโดยตรง เขาบอกว่าถ้า ขุนศึกเล็ก ที่ไม่แพ้ใครมานานแบบนี้ ถ้าแพ้ขึ้นมาก็ไม่อยากให้เด็กเสียใจมาก ถ้าเป็นไปได้อาจจะจัดงานเลี้ยงเพื่อปลอบใจเด็กไปเลย อย่างน้อยก็ให้เด็กไม่เสียใจ เพราะเรื่องความพ่ายแพ้ทางทีมงานทำใจกันไว้ล่วงหน้าเรียบร้อย เพราะการชกมวยไทย 5 ยก ก็ต้องยอมรับว่าบรรยากาศมีผล และวันหนึ่ง ขุนศึกเล็ก อาจจะเจอสถานการณ์บีบบังคับก็เป็นได้

นี่คือเรื่องราวของคู่แฝดจาก อ.กระนวล จ.ขอนแก่น ทางมวยเด็ด 789 เชื่อว่าทั้งคู่จะยังไม่หยุดสร้างสถิติต่อไปอย่างแน่นอน และขอให้ข้อความบรรทัดนี้ส่งกำลังใจให้กับนักมวยทั้งคู่ รวมไปถึงทีมงานบูมเด็กเซียนทุกคน ที่ร่วมกันสร้างยอดมวยแห่งอนาคตขึ้นมา และหวังว่า ขุนศึกเล็ก-ขุนศึกน้อย จะทะลุไปเป็นมวยเงินแสน และเงินล้านต่อไปในอนาคต ขอให้โชคดีมีชัย

ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com

Facebook page : มวยเด็ด789

Youtube Channel : มวยเด็ด789