4 เดือนแห่งการต่อสู้ของวงการมวยไทย
ใครจะไปเชื่อว่า ภายในระยะเวลาแค่ 4 เดือน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายกับ วงการมวยไทย ชนิดพลิกโฉมเข้าสู่ New Normal ฉับพลันตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 เป็นต้นไป
ภายหลังจาก มวยไทยอาชีพ ได้รับไฟเขียวจากรัฐบาล ให้สามารถจัดการแข่งขันได้แบบสนามปิด เพื่อถ่ายทอดสด โดยที่จะต้องปฏิบัติตามคู่มือการชกมวย ตามสถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับนัดแรกอย่างเป็นทางการของ มวยตู้ คือ ศึกจ้าวมวยไทย วันเสาร์ที่ 4 ก.ค. ถ่ายทอดสดช่อง 3
วันนี้ มวยเด็ด 789 จะพาทุกท่านไปย้อนรำลึกช่วงเวลา 4 เดือนแห่งการต่อสู้ ที่ผ่านมา “วงการมวยไทย” เป็นอย่างไร ? มีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน ก่อนที่มวยตู้จะเปิดฉากในสุดสัปดาห์นี้
ย้อนกลับช่วงปลายเดือนมกราคม “ประเทศไทย” พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกที่ติดเชื้อในประเทศ จากนั้นต้นเดือนมีนาคม 2563 มีการจัดมวยรายการใหญ่ที่เวทีลุมพินี ครั้งนั้นมีผู้ชมเข้าไปดูที่สนามกันหนาแน่น
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป แมทธิว ดีน พิธีกรในการจัดมวยวันนั้น โพสต์ว่าตัวเองติดเชื้อ โควิด-19 และขอให้คนที่อยู่ในสนามมวยวันดังกล่าว ไปตรวจหาเชื้อกันด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลาม ทำให้บรรดาเซียนมวยทั้งหลาย เข้าพบแพทย์ จนพบผู้เชื้อจากสนามมวยนับ 100 ราย
แม้ว่าหลังทราบข่าว มีผู้จัดมวย ฯ พยายามจะจัดการแข่งขันแบบสนามปิด เน้นเฉพาะถ่ายทอดสดอย่า่งเดียว แต่สุดท้ายก็ต้านทานกระแสสังคมไม่ไหว บวกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในไทย กำลังรุนแรงในช่วงนั้น
เวทีมวยต่าง ๆ จึงค่อย ๆ ทยอยหยุดให้การบริการอย่างไม่มีกำหนด จนในที่สุดก็ไม่เหลือรายการมวยให้นักชกต่อย
ค่ายมวยจึงต้องปล่อยตัวนักมวยกลับภูมิลำเนา ช่วงเวลานั้น คนมวยกลายเป็นจำเลยสังคม นักมวยถูกมองด้วยสายตารังเกียจ จากคนในหมู่บ้าน, โปรโมเตอร์ ถูกมองว่าเป็นคนที่หากินกับความเดือดร้อน ส่วนศิลปะการต่อสู้มวยไทยถูกมองในด้านลบ
หัวหอกคนสำคัญที่ออกมาเป็นปากเสียงให้คนวงการมวย ช่วยแก้ต่าง และชี้แจงความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สังคม ก็คือ หนุ่มโบ้ท – ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ของเพชรยินดี ที่เวลานั้นมีสื่อจากหลายสำนักมาขอสัมภาษณ์ และเขาเองก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องเกียรติยศของมวยไทย
ชีวิตความเป็นอยู่ของนักมวยแทบทั้งหมด ในวันที่ไม่มีรายการชก เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะอาชีพมวย ไม่มีเงินเดือน ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ไม่ได้อยู่หลักเกณฑ์ที่จะได้เงินเยียวยา เดือนละ 5,000 บาท
แล้วก็ด้วยพลังจากคนในวงการมวยอีกนั่นแหละ ที่พยายามช่วยกันนำเสนอเรื่องนี้ จนสุดท้ายมีการอนุมัติว่า นักมวยที่อยู่ในเกณฑ์แจกเงิน 5,000 บาท ก็ควรมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินเยียวยา แม้วันนี้ เงินจำนวนดังกล่าวก็ยังไปไม่ถึงมือนักมวยอีกเลย แต่นักมวยทุกคนก็ยังอดทนรออยู่
หลังจากนั้นเราก็ได้เห็น คนในวงการมวย จับมือกัน เพื่อให้มวยไทยสามารถกลับมาจัดได้อีกครั้ง เรียกว่า สลายก๊ก สลายความต่าง ลดความขัดแย้ง มายืนหยัดต่อสู้ด้วยกัน แม้จะต้องอดทนวันแล้ว วันเล่า ลุ้นให้มวยไทยกลับมา แต่ทุกคนก็อดทนและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ใหญ่ จนสุดท้ายความหวังของทุกคนก็เป็นจริงเสียที
นอกจากนี้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ยังมีความเปลี่ยนแปลงระดับใหญ่เกิดขึ้น เช่น 4 โปรโมเตอร์จากราชดำเนิน ประกาศลาออกจากสนาม, และเรื่องของโปรโมเตอร์หลายท่าน เช่น เชฟบุญธรรม, หนุ่มน้อย เมืองหาดใหญ่, มิตร นคร ฯลฯ กำลังเดินหน้าจัดมวยไทยออนไลน์
รวมถึงข่าวใหญ่อย่างการที่ กลุ่มทุน ซีพี อาจจะเข้ามาบริหาจัดการ และดูแลสนามมวยลุมพินี แทนที่ กองทัพบก ตามโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลง
แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ 4 เดือนแห่งการต่อสู้ การได้เห็น พลังจากคนในวงการมวยไทย ออกมาช่วยกันคนละไม้ คนละมือ จนสุดท้าย มวยไทย ก็ได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองกับสังคมอีกครั้ง ซึ่งนี่เป็นเรื่องน่ายินดีมากสุด ที่ว่า ไม่มีพลังไหน ใหญ่ไปกว่าพลังแห่งความสามัคคี
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com