ณ ช่วงสายอากาศสุดร้อนแรงของประเทศไทย เช้าวันเสาร์ที่บางคนก็ทำงาน บางคนก็ได้หยุดอยู่บ้าน ต่างติดตามส่งกำลังใจให้กับ น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย นักมวยไทยระดับตำนานที่ยังมีลมหายใจ ในการป้องกันแชมป์โลกมวยไทยครั้งที่ 8 ของเขา กับผู้ท้าชิงสุดอันตรายจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ อย่าง โจนาธาน แฮกเกอร์ตี้
แต่ทว่าพวกเขาเหล่านั้นต่างไม่มีใครคาดคิดว่าเกมการชกจะจบลงอย่างรวดเร็วเพียงยกแรก ท่ามกลางความตะลึงของแฟนมวยชาวไทย ที่หลายคนยังไม่เชื่อสายตาว่า มวยจอมแกร่งอย่าง น้องโอ๋ ที่ป้องกันแชมป์มาหลายครั้งจนได้ฉายาว่า “ราชันฆ่าไม่ตาย” กำลังต้องมีจุดจบอันสยดสยอง โดนต่อยหัวปักพื้น พ่ายน็อกไปในยกแรก แบบที่เจ้าตัวยังไม่ทันทำอะไรทั้งนั้น
เหมือนรถสิบรถเบลคแตกวิ่งเข้าชนมอเตอร์ไซ คือรู้ตัวอีกทีวิญญาณก็ออกจากร่างไปเรียบร้อย
ไฟต์ระหว่าง แฮกเกอร์ตี้ กระชากแชมป์จากเอว น้องโอ๋ ทางรายการ ONE ถึงกับขนานนามว่าเป็น ไฟต์พลิกล็อกแห่งปี หรือ Fight Upset of The Year กันเลยทีเดียว
แต่หารู้ไม่ว่า โจนาธาน แฮกเกอร์ตี้ เส้นทางกว่าจะล้ม น้องโอ๋ ลองสืบไปดูตั้งแต่เขาอายุ 7 ขวบ ก็เริ่มเรียนรู้มวยไทยแล้ว ก็ไม่แปลกนักที่วันนึง เขาจะประสบความสำเร็จ เป็นแชมป์โลกมวยไทย ที่คนไทยรู้จักมากที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคนี้
สำหรับ โจนาธาน แฮกเกอร์ตี้ นักชกหนุ่มกระทงวัย 26 ปี เกิดที่ย่าน ออร์ปิงตัน ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่แถบตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ครอบครัวของเขาเป็นนักสู้ตัวจริง เพราะคุณพ่อของ แฮกเกอร์ตี้ เคยเป็นนักมวยมาก่อน แต่ชื่ออาจจะไม่ได้โด่งดังนัก
หลังจากที่พ่อของแฮกเกอร์ตี้แขวนนวม ก็ได้ร่วมหุ่นกับเพื่อน คือ มิสเตอร์ ลาฟห์ บิล ก่อตั้งยิมมวยไทยเล็กๆอยู่ที่กรุงลอนดอน ต่อมากระทั้ง คุณลาฟห์ บิล ได้มีโอกาสเดินทางมาที่ประเทศไทย ยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จึงตัดสินใจมาเผชิญชีวิตอยู่ที่นี่ และปิดกิจการยิมที่อังกฤษเสีย
ซึ่ง ลาฟห์ บิล ถือว่าเป็นคนต่างชาติที่มีความรู้เรื่องมวยไทยเยอะ จึงได้ก่อตั้งค่ายมวย WMC ละไมมวยไทย ขึ้นมา และเป็นคนสำคัญของนักมวยต่างชาติหลายคน ที่เดินทางมาใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะสมุย ทั้งจาก ยุโรป อเมริกาใต้ หรือ อิหร่าน และ ตะวันออกกลาง เคยมาเก็บตัวอยู่ที่ค่าย WMC ละไมมวยไทย ทั้งสิ้น โดยช่วงแรก ค่ายWMC ละไมมวยไทย จะส่งมวยเข้าสู่รายการ Thaifight เป็นหลัก
หลังจากเปิดยิมได้ไม่นาน คุณพ่อของ แฮกเกอร์ตี้ เห็นว่าเพื่อนรักมาเปิดยิมอยู่ที่เมืองไทย จึงได้นำลูกชายอย่าง โจนาธาน แฮกเกอร์ตี้ มาหัดมวยอยู่ที่นี่ ตั้งแต่ตอนอายุ 7 ขวบ ก่อนจะได้ขึ้นชกไฟต์แรกในแบบสมัครเล่นตอนอายุ 12 ปี เรียกได้ว่า โจนาธาน แฮกเกอร์ตี้ มาเป็นมวยอยู่ที่เมืองไทย ก็ว่าได้
ก่อนจะเทิร์นโปรในปี 2014 ช่วงแรกทำผลงานดี เคยมาชกที่เวทีมวย เฉวง มวยไทย บ็อกซิ่ง สเตเดียม และคว้าชัยได้อย่างสวยงาม หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าตัวได้ทดสอบฝีมือกับมวยมีชื่ออย่าง แกรี่ บาเวตต้า โคตรมวยพันธุ์แกร่งจากอิตาลี ที่เคยซัดกับมวยไทยมาแล้วหลายคน แต่ทว่า แฮกเกอร์ตี้ ก็สามารถอัดมวยจากแดนมักโรนี สิ้นชื่อในยกที่ 3
ช่วงปี 2017 หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาหลายไฟต์ คราวนี้เป็นไฟต์ที่เจ้าตัวต้องเจอกับมวยไทยของจริง ที่ผ่านประสบการณ์มาระดับร้อยไฟต์ และเคยขึ่นชกเป็นคู่เอกของเวทีมวยลุมพินีมาแล้วอย่าง จา เกียรติพลทิพย์ หรือเดิมๆก็คือ วุฒิชัย ช.ณ.พัทลุง จอมฝีมือเมืองใต้ อดีตขุนพลคู่บารมีของ เสี่ยบู้ เมืองเพรช ในรายการ ศึกเพชรสุภาพรรณ อันเกรียงไกร
ผลปรากฏว่า แฮกเกอร์ตี้ ต้านความเก๋าของ จา เกียรติพลทิพย์ ไม่ไหว พ่ายคะแนนไปอย่างขาดลอย ในรายการ หยกขาว ที่เมืองโบลตัน ประเทศอังกฤษ ถัดมาอีกเพียงหนึ่งปี หลังจากเก็บชัยสวยๆอีก 2 ไฟต์ แฮกเกอรืตี้ ต้องโคจรมาพบกับโคตรมวยแห่งยุคของเมืองไทยอีกคนอย่าง ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 ผลปรากฎว่า แฮกเกอรืตี้ แพ้แตกไปแบบยับเยิน ในยกที่ 3 ในรายการ หยกขาว เช่นกัน
แต่ทว่าหลังจากที่พ่ายให้กับ ซุปเปอร์เล็ก เจ้าตัวกลับเดินทางต่อ และได้เซ็นสัญญาเข้าเป็นนักชกในสังกัดของ ONE Championship ที่กำลังควานหานักชกฝีมือดีจากทั่วโลกได้มาประลองฝีมือกัน
เข้าเปิดตัวแบบโคตรสุดด้วยการชนะคะแนน โจเซฟ ลาซิลี่ นักชกอิตาลี ผู้ล้ม พระจันทร์ฉาย คว้าแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทมวยไทย มาครองได้สำเร็จ ก่อนจะป้องกันแชมป์ครั้งแรกชนะคะแนน สามเอ ไก่ย่างห้าดาว ไปแบบสุดเดือด ที่นครจากาต้า อินโดนีเซีย แต่ทว่า…
ในการป้องกันแชมป์ครั้งที่ 2 เขาต้องโคจรมาพบกับ ดิ ไอออนแมน รถถัง จิตรเมืองนนท์ ที่ทาง ONE ต้องการสร้างให้เป็นแชมป์โลก โดย รถถัง เก็บชัยมา 4 ไฟต์ติดในรายการ ONE ศึกชิงแชมป์โลกวันนั้นเกิดขึ้นที่กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ ก่อนที่ รถถัง จะอาศัยความแข็งแกร่ง เดินแลกเดือดชนะคะแนน ไปอย่างเป็นเอกฉันทร์
ความพ่ายแพ้ครั้งนั้นทางฝั่งของ แฮกเกอร์ตี้ รู้สึกคาใจเป็นอย่างมาก และถัดจากนั้นเพียง 4 เดือนเศษ ทาง ONE ก็กำหนดให้คู่นี้รีแมตช์กันอีกครั้ง ผลปรากฏว่า รถถัง ย้ำแค้นไปได้อีกครั้ง ในแบบที่ แฮกเกอร์ตี้ ไม่มีข้อแก้ตัว เพราะเขาโดน รถถัง ถล่มลำตัว พ่ายไปในยกที่ 3
โดยในปี 2020 หลังจากที่อกหักพ่าย รถถัง เจ้าตัวก็ไม่แพ้ใครอีกเลย มีชนะ ไทกิ ไนโตะ อดีตแชมป์โลกผู้พิชิต กัปปิตัน,ถล่ม อาเธอร์ สิงห์ป่าตอง คว้าแชมป์ ISKA,คว่ำ มงคลเพชร เพชรยินดี ก่อนจะข้ามรุ่นอัด วลาดิเมียร์ คุซมิน นักมวยชาวรัสเซีย แล้วมาผงาดคว้าแชมป์โลก ONE รุ่นที่ 2 ด้วยการเก็บ น้องโอ๋ หัวปักพื้นยกแรก จนเจ้าตัวกลับมาเป็นมวยดาวดังระดับโลกอีกครั้ง
ทางผู้เขียนได้สอบถามไปยัง แจ็ค WMC ละไมมวยไทย หรือ เฉลิมศักดิ์ ศักดิ์เดชา อดีตยอดไอ้แอ๊ดแดนใต้ ที่คอยดูแลแฮกเกอร์ตี้ ร่วมกับทีมงาน จนมีชัยในไฟต์นี้ ถึงนิสัยใจคอและตัวตนของ แฮกเกอร์ตี้ โดย แจ็ค ได้บอกกับผู้เขียนว่า
“แฮกเกอร์ตี้ เป็นนักมวยที่มีความขยันอดทนสูง เห็นบนเวทีเขาอาจจะเป็นมวยที่ก้าวร้าว แต่ถ้าเกมจบ หรืออยู่นอกสังเวียน เขาเป็นคนที่ให้ความเคารพต่อผู้อื่นมากๆ แม้ว่าตัวเขาจะเป็นคนอังกฤษ แต่หัวใจเขาคือคนไทย 100 เปอร์เซน ชีวิตของเขา นอกจากมวยไทย ไม่เคยมีอย่างอื่นอยู่ในหัวเลย”
“แม้ว่าเขาจะเป็นมวยดัง แต่เวลาที่เราสอน เขาจะฟังแบบไม่ขัด เพราะเขารู้ว่าทุกคนในทีมต้องการให้เขาทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ที่สำคัญนอกจากเขาจะทำสำเร็จด้วยการเอาชนะตำนานมวยไทยได้แล้ว เขาก็ขอขอบคุณแฟนมวยชาวไทยทุกคนที่ชื่นชอบในสไตล์ของเขา และหวังว่าจะตามเชียร์ในทุกๆไฟต์”
นี่คือเรื่องราวของตำนานบทใหม่ชาวอังกฤษ ที่ได้ชื่อว่าล้มยอดมวยไทยระดับตำนานได้ แม้ว่าวันนึง โจนาธาน แฮกเกอร์ตี้ อาจจะต้องพบกับคำว่า “พ่ายแพ้” แต่เชื่อเหลือเกินว่า ไฟต์ที่เขาสยบ “ราชันฆ่าไม่ตาย” ถึงถิ่น จะเป็นที่พูดถึงอีกนานเท่านานตราบที่พวกเรายังมีลมหายใจ
ติดตามทุกข่าวสารวงการมวยได้ที่นี่ www.muayded789.com